กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ชี้สมาชิกเป็นเจ้าของสหกรณ์ แนะใช้ประโยชน์จากรายงานการสอบบัญชี ร่วมสร้างสหกรณ์ให้เข้มแข็ง
          นางสาวอรุณี วงศ์ราเชน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจการเงินสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เปิดเผยว่า สมาชิกสหกรณ์ทุกคน ถือเป็นเจ้าของสหกรณ์ร่วมกัน จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจการของสหกรณ์ โดยเฉพาะมีความเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของสหกรณ์ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อสมาชิก ซึ่งเป็นการรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกเอง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานซึ่งมีภารกิจหลักในการตรวจสอบบัญชีและแสดงความเห็นต่องบการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรตามมาตรฐานการสอบบัญชีและระเบียบที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกและผู้ใช้งบการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมากยิ่งขึ้น งบการเงินก็เปรียบเสมือนใบรายงานผลสุขภาพทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร รายการและตัวเลขที่ปรากฏในงบการเงิน ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสดหรืองบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ จะชี้ให้ผู้ใช้งบการเงินทราบในเบื้องต้นว่า สหกรณ์มีฐานะการเงินอย่างไร ผลการดำเนินงานในรอบปีของสหกรณ์เป็นอย่างไร มีกำไรหรือขาดทุน กระแสเงินสดที่ใช้หมุนเวียนในรอบปี มีสภาพคล่องเพียงไร และที่สำคัญคือ หมายเหตุประกอบงบการเงิน ที่อยู่ในส่วนท้ายของงบการเงิน ซึ่งแสดงถึง ความโปร่งใสในการเปิดเผยนโยบายการบัญชีที่สำคัญ และรายละเอียดประกอบรายการต่าง ๆ ที่ปรากฏในงบการเงิน
       ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจการเงินสหกรณ์ กล่าวอีกว่า งบการเงินที่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจัดทำให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบนั้น จะตรวจสอบตามหลักฐานที่เพียงพอและเหมาะสมว่า สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้ปฏิบัติตามกฎหมายสหกรณ์ กฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์อย่างถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญหรือไม่ และแสดงความเห็นต่องบการเงินของสหกรณ์ หลังจากนั้นผู้สอบบัญชีจะส่งรายงานการสอบบัญชีให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเพื่อนำเสนอไว้ในรายงานกิจการประจำปี ประกอบด้วยรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานผลการตรวจสอบบัญชีประจำปี เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบและทำความเข้าใจ ดังนั้น สิ่งแรกที่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรต้องให้ความสำคัญคือ รายงานของผู้สอบบัญชี ที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นต่องบการเงินของสหกรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้สอบบัญชี จะแสดงความเห็นต่องบการเงินแบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งแปลว่า สหกรณ์มีการดำเนินการที่ถูกต้อง เรียบร้อย แต่ในบางสหกรณ์ผู้สอบบัญชีอาจเพิ่มวรรคเน้นให้ผู้ใช้งบการเงินได้ทราบว่าสหกรณ์ได้มีการดำเนินการบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งสหกรณ์ควรแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ถ้าเป็นกรณีที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไข สมาชิกต้องให้ความสำคัญและทำความเข้าใจว่าสิ่งใดที่ผู้สอบบัญชีได้ระบุเป็นเงื่อนไขไว้ในรายงานของผู้สอบบัญชี ซึ่งเป็นความเสี่ยง ที่สหกรณ์ต้องเพิ่มความระวังและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และหากสมาชิกมีข้อสงสัย ก็สามารถซักถามผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการได้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส
        สำหรับรายงานผลการตรวจสอบบัญชี จะเป็นการสรุปข้อสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลในประเด็นสำคัญ ๆ ดังนี้
         ๑.) ข้อสังเกตที่ตรวจพบจากการตรวจสอบเกี่ยวกับจุดอ่อนของการควบคุมภายใน ผู้สอบบัญชีจะแจ้งให้สหกรณ์ทราบว่าจากการตรวจสอบบัญชี ยังมีจุดใดบ้างที่สหกรณ์ควรควบคุมดูแลให้ถูกต้องและเหมาะสม และกำหนดมาตรการในการป้องกัน ป้องปราม หรือแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องต่อไป ข้อสังเกตที่ผู้สอบบัญชีตรวจพบส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง เงินสดขาดบัญชี สินค้าขาดบัญชี การไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของสหกรณ์ ทั้งด้านสินเชื่อ เงินรับฝาก การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย การจัดทำบัญชีและงบการเงินไม่เรียบร้อย ไม่ครบถ้วน และการไม่รักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูล  
        ๒.) ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเงิน ผู้สอบบัญชีจะวิเคราะห์ข้อมูลใน ๖ มิติ ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กัน ดังนี้
              ด้านความเพียงพอของเงินทุน เป็นการบอกให้ทราบถึงโครงสร้างเงินทุนที่สหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรได้มาเพื่อใช้ในการดำเนินงานว่า ได้มาจากทุนของตัวเองหรือจากหนี้สิน (ส่วนใหญ่จะเป็นเงินรับฝากและเงินกู้ยืม) เงินทุนเหล่านี้ถ้ามีความเพียงพอและเข้มแข็ง ก็อาจนำไปลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาวได้ อัตราส่วนสำคัญที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์ ได้แก่ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อัตราทุนสำรองต่อสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน หรือ ROE สิ่งที่สหกรณ์ต้อง พึงระวังคือ การได้มาและการใช้ไปของเงินทุนควรมีความเหมาะสมทั้งช่วงเวลาและจำนวนเงิน มิฉะนั้นอาจทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ เช่น สหกรณ์ได้เงินทุนมาจากการก่อหนี้โดยการกู้ยืมระยะสั้นแต่ได้นำเงินไปใช้ลงทุนในระยะยาว ซึ่งอาจทำให้สหกรณ์มีเงินไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายชำระคืนเจ้าหนี้
            ด้านคุณภาพของสินทรัพย์ เป็นการวิเคราะห์ว่าสหกรณ์ได้นำเงินทุนที่ได้มาไปใช้ให้เกิดประโยชน์หรือผลตอบแทนในสินทรัพย์ใดบ้าง เช่น ให้สมาชิกหรือสหกรณ์กู้ ลงทุนในหลักทรัพย์ ฝากที่สหกรณ์อื่น สินค้าหรือลงทุน ในครุภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อาคาร รถยนต์ หรืออุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและให้บริการสมาชิก ได้อย่างรวดเร็ว อัตราส่วนสำคัญที่นำมาวิเคราะห์ เช่น อัตราหมุนของสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ หรือ ROA อัตราหนี้ค้างชำระ ดังนั้น หากสินทรัพย์ที่สหกรณ์นำไปลงทุนมีปัญหา เช่น ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ถอนเงินฝากสหกรณ์อื่นไม่ได้ สถาบันการเงินที่นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์มีปัญหา มีสินค้าคงเหลือมาก หรือใช้ครุภัณฑ์ไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ต่อการลงทุน ก็อาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนและผลการดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
            ด้านความสามารถในการบริหารธุรกิจและความสามารถในการทำกำไร เป็นการวิเคราะห์ว่าในรอบปีบัญชีสหกรณ์มีมูลค่าการดำเนินธุรกิจอย่างไร มีการเติบโตเพิ่มขึ้น หรือถดถอยจากปีก่อนเพียงใด ซึ่งจะสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานของสหกรณ์ว่าธุรกิจใดบ้างที่ทำแล้วมีกำไร หรือ ขาดทุน หรือมีกำไรแต่ลดลงจากปีก่อน สาเหตุเกิดจากอะไร รายได้ลดลง ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากรายการใด เพื่อสหกรณ์จะได้ควบคุมให้เหมาะสมต่อไป อัตราส่วนที่สำคัญ เช่น อัตรากำไรสุทธิ อัตราค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เป็นต้น
           ด้านสภาพคล่อง เป็นการวิเคราะห์ว่าสหกรณ์มีสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้นเหมาะสมเพียงใด โดยเปรียบเทียบสินทรัพย์ระยะสั้นกับหนี้สินระยะสั้นของสหกรณ์ว่ามีความเหมาะสมเพียงใด สินทรัพย์ระยะสั้นของสหกรณ์มีเพียงพอต่อการชำระคืนเจ้าหนี้ระยะสั้นหรือไม่ ซึ่งจะสัมพันธ์กับคุณภาพของสินทรัพย์ด้วย เพราะถ้าสินทรัพย์ระยะสั้นของสหกรณ์ไม่มีปัญหาใด ก็จะมีความคล่องตัวที่จะแปรสภาพเป็นเงินสดได้ง่าย อัตราส่วนที่สำคัญ เช่น อัตราส่วนทุนหมุนเวียน อัตราหมุนของสินค้า อัตราหมุนของลูกหนี้การค้า อัตราลูกหนี้ที่ชำระหนี้ได้ตามกำหนด เป็นต้น
          ผลกระทบของธุรกิจสหกรณ์ เป็นปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของสหกรณ์ อาทิ กฎ ระเบียบ เทคโนโลยี ภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การเมือง นโยบายรัฐบาล ความเชื่อมั่น ศรัทธาในระบบสหกรณ์ ปัจจัยเหล่านี้สหกรณ์ควรนำพิจารณาประกอบการบริหารจัดการและ การดำเนินงานของสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง
          "กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เป็นเพียงผู้อยู่เบื้องหลังการดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวน ๑๒.๘ ล้านคน มูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น ๓.๕๖ ล้านล้านบาท แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าการดูแลรักษาผลประโยชน์ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่แท้จริงก็คือสมาชิกทุกคน ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความตอนหนึ่งว่า "...ช่วยกันสร้าง ทำให้สหกรณ์แข็งแรง มีความก้าวหน้า เมื่อสหกรณ์ก้าวหน้า แข็งแรง แต่ละคนที่เป็นสมาชิก ก็มีความสุข มีความภูมิใจได้ว่า สร้างตัวเองขึ้นมา...” สมาชิกแต่ละคนจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญ ที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างและดูแลรักษาสหกรณ์กลุ่มเกษตรกรของท่านให้เข้มแข็ง และก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง”