เพราะเริ่มทำด้วยใจรัก...จึงชักชวนอย่างสมัครใจ
ครูบัญชีอาสาอโนชา เล่าว่า ก่อนที่จะเข้ามาอบรมครูบัญชีในรุ่นแรกนั้น ตนได้เริ่มทำบัญชีมาก่อนหน้านั้น ไม่ว่าจะเป็นบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ และเหตุผลที่ทำ คือ ด้วยใจรักการจดบัญชี และส่วนหนึ่งเป็นเพราะการประกอบอาชีพ ที่จำเป็นจะต้องนำข้อมูลจากบัญชีมาใช้ในการวางแผนด้วย วิเคราะห์ว่าอาชีพที่ทำอยู่ในปัจจุบันประสบความสำเร็จหรือไม่ เพื่อจะได้หาแนวทางปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ต่อไป ก่อนที่จะเข้ารับการอบรมก็ทำบัญชีเป็นประจำอยู่แล้ว พอมาทำหน้าที่ครูบัญชีอาสาก็จะให้เกษตรกรสมัครใจที่จะเข้ามาเรียนรู้ที่จะลงบันทึก ที่จะทำบัญชี จะไม่ไปบังคับเขาว่าคุณต้องทำนะ จะพยายามชักชวน เอาบัญชีของตัวเองให้เขาดู แล้วชักชวนเขามาดูที่แปลงเรา ให้เขารู้ด้วย ตัวเองว่าเราทำสำเร็จนะ เราสามารถลดตรงนั้นได้ ให้เขามาเห็นของจริงว่า เราทำจริง ขายจริง ได้กำไรจริง เกษตรกรก็จะเอาเป็นตัวอย่างเอง และที่พบ คือ เกษตรกรที่ทำดูเขามีความสุขกับการทำบัญชี ถ้าวันไหนเขาไม่ได้ทำ จะเหมือนขาดอะไรไปกันเลยทีเดียว
ต้องคิดนอกกรอบ เห็นตัวเลขจากบัญชี...ไม่ดีเปลี่ยนอาชีพ
การทำบัญชีต้นทุนอาชีพนี่ดีมากๆ ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า แต่ละอาชีพที่เราทำมันประสบความสำเร็จหรือไม่ ทำให้รู้ว่าเราลงทุนไปเป็นเงินเท่าไหร่ แล้วที่เราขาย ได้กำไรหรือไม่ในอาชีพนั้นๆ เพื่อจะได้หาแนวทางปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ต่อไป ซึ่งเกษตรกรควรจะต้องคิดนอกกรอบอยู่ตลอดเวลา
...ส่วนบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน ก็ทำให้รู้ว่า เรามีรายรับ รายจ่ายแต่ละเดือนเท่าไหร่ จ่ายในเรื่องอะไรไปบ้าง ช่วยเตือนความจำให้เรารู้ว่าเดือนนี้ฟุ่มเฟือยไป ก็ลดรายจ่ายลง
ประหยัดมากขึ้น และสุดท้ายก็จะมีเงินออม...
ครูบัญชีอาสาอโนชา พูดถึงประโยชน์ของการทำบัญชีไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะบัญชีต้นทุนอาชีพ ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวชาวเกษตรกร เนื่องจากบัญชีสามารถบอกได้ว่าการประกอบอาชีพของเราประสบผลสำเร็จหรือไม่อย่างไร และช่วยในการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อหรือ ปรับเปลี่ยนอาชีพนั่นเอง
การทำบัญชี ขอทุนประกอบอาชีพเพิ่มได้
ท้ายที่สุดครูบัญชีอโนชาฝากบอกเพื่อนเกษตรกรว่า การจัดทำบัญชีเป็นประจำสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้เยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องการทุนในการประกอบอาชีพเพิ่มเติม บัญชีสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงสถานะทางการเงินได้อีกด้วย
...ถ้าใครยังไม่ได้ทำบัญชีก็ลองทำดู เผื่อว่ามีปัญหาในเรื่องของทุนสำหรับการประกอบอาชีพหากอยากขอทุนจากทางเทศบาล ธกส. หรือจากหน่วยราชการใดๆ แล้ว ถ้าทำบัญชี มีการบันทึกไว้ตลอดเวลาว่า ลงทุนไปเกิดปัญหาอะไร ขายได้เท่าไหร่ มีกำไรไหม ถ้าพอมีกำไรอยู่บ้างและอยากจะทำต่อ อยากจะไปของบจากเทศบาลมาช่วย ก็มีหลักฐานให้เทศบาลดู ซึ่งการทำบัญชีส่วนราชการก็สามารถจะสนับสนุนเงินในการลงทุนให้ได้ โดยที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ไปค้ำประกันอะไรเลย...
จากข้อคิดและคำแนะนำของครูบัญชีอาสาอโนชา คงจะทำให้ใครหลายคนนิ่งเฉยไม่ได้อีกแล้ว คงต้องตื่นตัวหันมาจับปากกาจดตัวเลขรายรับรายจ่าย อยากรู้ต้นทุนที่แท้จริงที่แต่เดิมอาจ จะไม่สนใจเท่าใดนัก ครูบัญชีอาสาอโนชาอยากเห็นคนที่มีใจรักการทำบัญชีให้มากขึ้น อยากให้เขาเหล่านั้นค้นพบประโยชน์จากการทำบัญชีด้วยตนเอง เพื่อจะได้รู้จักปรับปรุง รู้จักเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเองบนเส้นทางของความพอเพียง
.... เพียงเท่านี้ทุกคนก็มีความสุขได้...อย่างยั่งยืน ...
|