กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดประชุมสัมมนา“ก้าวสู่ทศวรรษที่สองสร้างครูบัญชีต้นแบบสู่ความเป็นเลิศ” เดินหน้าพัฒนาศักยภาพครูบัญชี ขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชี ขยายผลสู่พื้นที่ภาคเกษตรรองรับโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรฯ

กรุงเทพฯ
      นายปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้มี
นโยบายสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตร ช่วยเหลือเกษตรกรและดูแลราคาพืชผลเกษตร โดยการดูแล
เกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการลดต้นทุนการผลิต การช่วยเหลือในเรื่องปัจจัยการผลิต
อย่างทั่วถึง การช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย รวมถึงการใช้กลไกการตลาดดูแลราคาสินค้าเกษตรที่ราคาต่ำ
ผิดปกติให้สูงขึ้น ลดปัญหาอุปสรรคในการส่งออก เพื่อให้เกิดความคล่องตัว แสวงหาตลาดที่มีศักยภาพและ
การค้าชายแดน ตลอดจนในด้านเกษตรกรรมได้มีนโยบายให้ดำเนินการในเรื่องการปรับโครงสร้างการผลิต
สินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการ เช่น การแบ่งเขตเพื่อปลูกพืชผลแต่ละชนิด รวมทั้งดำเนินการ
สนับสนุนให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตสินค้าเกษตร เพิ่มบทบาทในฐานะผู้ซื้อพืชผลจนถึงการแปรรูป
และการส่งออกได้ เพื่อให้สหกรณ์เป็นผู้ค้าขายสินค้าเกษตรรายใหญ่ จากนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ดูแลเกษตรกร แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ
เกษตรกรและภาคการเกษตร จะต้องปฏิบัติงานให้ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลสำเร็จ และ
ช่วยเหลือให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความเดือดร้อนที่ได้รับจากภาคเกษตร หน่วยงานทุกภาคส่วนในสังกัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงร่วมกันกำหนดแผนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะขับเคลื่อน
การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ประกอบด้วย ๔ แผนงาน คือ
แผนปรับโครงสร้างและพัฒนาการผลิต, แผนเพิ่มศักยภาพสหกรณ์ในการดำเนินการเชิงพาณิชย์, แผนเพิ่ม
ประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ดิน และที่ดิน และแผนแก้ไขปัญหาเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยยึดระบบ
Zoning ที่เหมาะสมและการปรับโครงสร้างการผลิตทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง และส่งเสริมการเกษตรแบบ
แปลงใหญ่ ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ เชื่อมโยงตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ สินค้าเกษตร
ที่สำคัญ
      ทั้งนี้ ในส่วนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีภารกิจสำคัญส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคลให้กับ
เกษตรกรในโครงการต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรสามารถทำบัญชีได้ ใช้ข้อมูลเป็น ซึ่งข้อมูลบัญชีรายบุคคล
ของเกษตรกรจะเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สามารถใช้บ่งชี้วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องการลดต้นทุน
ผลิตทางการเกษตร การเพิ่มรายได้ การปรับเปลี่ยนอาชีพและการวางแผนทางการตลาด รวมทั้งการเข้าถึง
แหล่งเงินทุนของเกษตรกร ซึ่งเกิดจากผลงานของอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ที่ทำหน้าที่สอนแนะ
กระตุ้นการเรียนรู้และติดตามผลการจัดทำบัญชีของเกษตรกร ครูบัญชี จึงนับได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ
ที่เป็นตัวแทนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการเข้าไปทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดทำบัญชี ให้แก่
เกษตรกร เยาวชน และประชาชน ได้รู้จักใช้ข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาวิเคราะห์วางแผนประกอบอาชีพ
มีวินัยทางการเงิน -๒- มีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้วยบัญชี ให้รู้ถึงรายได้ รายจ่าย หมดหนี้ มีเงินออม ควบคู่ไปกับการ
ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันจะส่งผลให้ชุมชน
เข้มแข็งและพัฒนาตนเองได้อย่างมั่นคง การสัมมนาในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ครูบัญชีดีเด่นระดับประเทศ
ปี ๒๕๔๘ – ๒๕๕๗ รวมทั้งครูบัญชีดีเด่นในปีนี้ จะได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์
และได้รับองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อนำไปใช้พัฒนาศักยภาพของตนเองซึ่งยังได้จัดให้มีการมอบรางวัลให้แก่
ครูบัญชีดีเด่นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ อย่างมานะ อุตสาหะ ซึ่งถือเป็นความ
ภาคภูมิใจของครูบัญชีทุกคน ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น และเป็น
แบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรและบุคคลในชุมชนได้ต่อไป
      นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีพันธกิจหลัก
ในการเสริมสร้างความรู้และส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคลแก่เกษตรกรและสมาชิกสถาบันเกษตรกร ให้สามารถ
จัดทำบัญชีและใช้ข้อมูลทางบัญชีให้เกิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม โดยกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์ได้สร้างแกนนำเกษตรกรให้เป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็น
ตัวแทนของกรม ทำหน้าที่เป็นวิทยากรและวิทยากรผู้ช่วย ในการสอนแนะการจัดทำบัญชี กำกับแนะนำการทำบัญชี
และติดตามเก็บข้อมูลการทำบัญชีของเกษตรกรเป้าหมาย ถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีให้กับเกษตรกร เพื่อให้สามารถ
ดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัยทางการเงิน มีภูมิคุ้มกันด้วยบัญชี เพื่อพัฒนาตนเอง
ได้อย่างมั่นคง ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็ง โดยได้ทำการคัดเลือกจากครูบัญชีที่มีผลงานดีเด่นด้านการจัดทำบัญชี
การเป็นวิทยากรในการสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้และติดตามผลการจัดทำบัญชีของเกษตรกรที่มีความคิดริเริ่ม
สามารถฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน มีความเสียสละเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวม มีความเป็นผู้นำอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรและบุคคลในชุมชนได้ ให้เป็น
เกษตรกรดีเด่นสาขาบัญชีฟาร์ม ระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ มาเป็นเวลา 10 ปี จนมาถึงในปี 2558 นี้
ซึ่งก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่สองของการพัฒนาครูบัญชี นับเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชี
รายบุคคลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้ขยายผลลงไปสู่พื้นที่ภาคเกษตรรองรับโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ ในการสร้างความเข้มแข็งภาคเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกร สำหรับในปีนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ระดับประเทศ เรื่อง "ก้าวสู่ทศวรรษที่สอง
สร้างครูบัญชีต้นแบบสู่ความเป็นเลิศ” ขึ้น ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เพื่อพัฒนาศักยภาพครูบัญชี
เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลและแผนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศึกษาต้นแบบ
ความสำเร็จในการใช้ข้อมูลต้นทุนประกอบอาชีพและระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ สามารถนำไปถ่ายทอด
ต่อในระดับพื้นที่ และเป็นการสร้างแรงจูงใจ กระตุ้นการสร้างเครือข่ายครูบัญชี โดยมีอาสาสมัครเกษตรกรด้านบัญชี
(ครูบัญชี) ประจำปี ๒๕๕๘ ครูบัญชีดีเด่นระดับประเทศ ปี ๒๕๔๘-๒๕๕๗ คณะกรรมการชมรมครูบัญชี ข้าราชการ
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม ๒๗๐ คน เข้าร่วมภายในงาน ทั้งนี้ ภายในงานจัดให้มีพิธีเข็มเชิดชูเกียรติ
พร้อมใบประกาศเกียรติคุณแก่ครูบัญชีดีเด่นประจำปี ๒๕๕๘ จำนวน ๗๗ ราย และครูบัญชีดีเด่นระดับประเทศ
ปี ๒๕๔๘-๒๕๕๗ จำนวน ๑๐ ราย เพื่อเป็นเกียรติประวัติของครอบครัวและชุมชน และสร้างขวัญกำลังใจในการ
ปฏิบัติหน้าที่ครูบัญชี นอกจากนี้ ยังจัดให้มีนิทรรศการนำเสนอผลงานการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพของครูบัญชี
การบรรยายพิเศษในหัวข้อ "ก้าวสู่ทศวรรษที่สองสร้างครูบัญชีต้นแบบสู่ความเป็นเลิศ” รวมทั้งการศึกษาดูงาน
การเรียนรู้แนวปฏิบัติตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ อีกด้วย
      ทั้งนี้ นายสุรชัย แซ่จิว ครูบัญชีจากจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นครูบัญชีดีเด่นระดับ
ประเทศ ปี ๒๕๕๘ จะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ในพระราชพิธีพืชมงคล วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นี้ ณ พระราชพิธีท้องสนามหลวงด้วย.

                                         /////////////////////////////////////////////////