กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เร่งขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือ ซีวา 2009 อย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2555-2559
หวังยกระดับสหกรณ์ภาคการเกษตร ให้พ้นวิกฤติความเสี่ยงต่อการ
ลงทุน
 
       นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี อธิบดีกรมตรวจ-
   บัญชีสหกรณ์  เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมตรวจ
   บัญชีสหกรณ์ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภท
   นวัตกรรมการให้บริการ สำหรับกระบวนงาน
   การให้คำปรึกษา เพื่อสร้างความมั่นคงเข้มแข็ง
   แก่สหกรณ์ (Social & Economic  Value
   Added  หรือ SEVA 2009) ไปแล้วนั้น 
   กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  จึงได้มี
นโยบายในการ
   ขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง 
   เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อกระบวนการสหกรณ์ 
   โดยเฉพาะสหกรณ์ภาคการเกษตร
       เครื่องมือการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจและสังคม (SEVA 2009 : ซีวา 2009)  คือ 
นวัตกรรมที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์คิดค้นขึ้น  เพื่อใช้ในการเตือนภัยในการดำเนินการของสหกรณ์  โดยเฉพาะด้านการบริหารทุนของสหกรณ์  ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยหรือคุ้มทุนหรือไม่  ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในการวางแผนปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานภาคสหกรณ์ให้ดียิ่งขึ้น  ทั้งนี้  กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  ได้นำนวัตกรรมซีวา 2009 ไปนำร่องใช้งานกับ 11 สหกรณ์
การเกษตร  และพบว่า  สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมในทุกสหกรณ์
       ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาและสร้างความมั่นคงสู่ภาคสหกรณ์มากยิ่งขึ้น  กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  จึงได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2555-2559  แก่บุคลากรของสหกรณ์ภาคเกษตรที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร  ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กว่า 1300 แห่ง  อาทิ  ผู้จัดการสหกรณ์  พนักงานบัญชี  คณะกรรมการสหกรณ์  และผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์  ให้มีความรู้  ความเข้าใจ  และสามารถใช้งานนวัตกรรม ซีวา 2009 ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด  ทั้งนี้  ในปี  2554 
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  จะเริ่มเดินหน้าอบรมข้าราชการของกรมฯ  ก่อนเพื่อสร้างวิทยากรประจำกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในการขับเคลื่อนงาน  สอนและการให้คำปรึกษาแนะนำสหกรณ์ให้รู้จักเครื่องมือและรู้จักวิธีใช้งานได้เป็นผลสัมฤทธิ์ ลุล่วงตามนโยบายดังกล่าว
      “นวัตกรรมซีวา 2009 ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สามารถช่วยยกระดับสหกรณ์ภาคการเกษตร  ในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยจะช่วยแก้ปัญหาในการดำเนินงาน 
การตัดสินใจ  การลงทุนและวางแผนให้กับสหกรณ์ตระหนักถึงความสำคัญของเงินทุนที่สหกรณ์ต้องเพิ่มมูลค่า  สร้างความศรัทธาต่อสมาชิก  และมุ่งให้เกิดความเข้มแข็ง  และพึ่งพาตนเองในระยะยาว  ซึ่งสามารถการันตีความสำเร็จได้จาก 11 สหกรณ์การเกษตร ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้นำร่องไปแล้ว  และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างชัดเจนในทุกสหกรณ์”
นายสิงห์ทอง กล่าว