‘รมช.มนัญญา’ เปิดโครงการพัฒนาองค์ความรู้และสร้าง
อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี รองรับโครงการเขตพัฒนา
พิเศษภาคตะวันออก จ.ชลบุรี หนุนเสริมความรู้การผลิต
สินค้าเกษตรมูลค่าสูงสู่ครูบัญชีอาสา พร้อมเป็นเครือข่าย
ถ่ายทอด ความรู้การทำบัญชี ช่วยวางแผนการผลิต
ยกระดับมาตรฐานสินค้าของเกษตรกร
 
      นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง
การพัฒนาองค์ความรู้และสร้างอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี รองรับ
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี เร่งสร้าง
แกนนำเกษตรกรเป็นครูบัญชีอาสา ถ่ายทอดความรู้การบันทึกบัญชีควบคู่
การบันทึกกระบวนการผลิตสินค้า ช่วยเกษตรกรพัฒนาการผลิตสินค้า
เกษตรที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ณ นงนุช เทรดดิชั่น รีสอร์ต ชลบุรี
(สวนนงนุช)
 
      นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนการ
พัฒนาประเทศที่กำหนดกรอบและแนวทางการพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุก
ภาคส่วนปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่ว่า "ประเทศไทยมีความ
มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อสนองตอบต่อผลประโยชน์แห่งชาติ สำหรับ
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คือ หนึ่งในโครงการพัฒนาประเทศ
ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ทั้งด้านการลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัย ตลอดจนพัฒนา
การผลิตสินค้าเกษตรที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับทั้งในและ
ต่างประเทศ ซึ่งการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน เกษตรกรต้องมีการจดบันทึกบัญชี
จะทำให้เกษตรกรทราบถึงต้นทุนการผลิต สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์รายได้
รายจ่าย ผลกำไรของตนเองได้ โดยมีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงาน
ขับเคลื่อนการนำบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร
และสถาบันเกษตรกร เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้เกษตรกร ผ่านอาสาสมัครเกษตร
ด้านบัญชี (ครูบัญชี) ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ด้านการบันทึกบัญชีรับ – จ่าย
ในครัวเรือน บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ให้แก่เกษตรกร มุ่งหวังให้เกษตรกรจัดทำ
บัญชีครัวเรือนและบัญชีฟาร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์
สถานภาพทางการเงิน รวมทั้งรู้ต้นทุนสินค้าที่ผลิต สามารถกำหนดราคาขายสินค้า
ให้สอดคล้องกับต้นทุนและสร้างกำไรได้เพียงพอกับการใช้จ่ายของแต่ละครอบครัว
      "ในปีนี้รัฐบาลได้กำหนดเป็นปีแห่ง "การแก้ปัญหาหนี้สิน” ให้ประชาชน สหกรณ์
และกลุ่มเกษตรกรถือเป็นสถาบันหลักที่สำคัญที่จะต้องส่งเสริมบูรณาการการทำงาน
ร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก โดยหาวิธีการ แนวทางให้สมาชิก
ประกอบอาชีพแล้วมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถลดหนี้สินได้ ซึ่งการทำบัญชี ถือเป็น
เครื่องมือที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มอบหมายให้
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีให้กับสมาชิก
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ได้สามารถนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาวิเคราะห์
วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างสมเหตุสมผล ใช้วางแผนการประกอบอาชีพ เพื่อลดต้นทุน
เพิ่มรายได้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มสภาพคล่องในครัวเรือน และลดภาระหนี้สินได้”
รมช.กษ.กล่าว
      นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า
โครงการฯ ดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ มีวัตถุประสงค์
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายซึ่งประกอบด้วยครูบัญชีอาสา เกษตรกร และผู้นำชุมชนในเขต
จังหวัดชลบุรี รวม 250 คน ได้เสริมสร้างความรู้ด้านการทำการเกษตรสู่การผลิตสินค้า
เกษตรมูลค่าสูง มีความรู้เรื่องบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนการประกอบอาชีพ บัญชีธุรกิจ
ตลอดจนสามารถถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้กับผู้สนใจ ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนครูบัญชี
ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอต่อการขยายตัวของการผลิตสินค้าเกษตร
ที่ได้มาตรฐาน จึงได้จัดตั้งอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชีอาสา) เพื่อถ่ายทอด
ความรู้ด้านบัญชีให้แก่เกษตรกร สามารถบันทึกบัญชีรายรับ รายจ่าย วางแผนการใช้
จ่ายเงิน วางแผนประกอบอาชีพ สามารถบริหารจัดการทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และบริหารการตลาดจนประสบผลสำเร็จ
        รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
มีครูบัญชีอาสาทั่วประเทศ จำนวน ๗,๖๓๖ คน ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
และมีความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพด้านการเกษตรควบคู่กับการนำบัญชีไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน นับเป็นกำลังหลักที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการ
ถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ สามารถนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้
ในการวางแผนประกอบอาชีพ และถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เครือข่ายในชุมชนให้มีความ
เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกัน พึ่งพาตนเองได้ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชุมชน ซึ่งรวมไปถึงเด็ก
นักเรียนและประชาชนทั่วไป โดยกรมฯ ได้เร่งสร้างแกนนำเกษตรกรรุ่นใหม่เป็นครู
บัญชีอาสาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่องานสอนบัญชีให้ขยายผลไปในทุกกลุ่มเป้าหมาย
และเป็นต้นแบบความสำเร็จให้เกษตรกรและคนในชุมชนได้ใช้เป็นแนวทางการ
ประกอบอาชีพ และเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีของ
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้ขยายผลลงไปสู่พื้นที่ภาคเกษตรรองรับโครงการต่าง ๆ ของ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการช่วยเหลือเกษตรกรและสร้างความเข้มแข็งภาค
เกษตรได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายชมรมครูบัญชี ทั้งในระดับภาค
และระดับประเทศให้มีความเข้มแข็งและกว้างขวางยิ่งขึ้น.