กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  มั่นใจการเชื่อมโยงโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรกับระบบ ATM ของธนาคาร ถูกใจสหกรณ์ออมทรัพย์ สะดวก รวดเร็ว ได้มาตรฐาน

      
       นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจ
บัญชีสหกรณ์  เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ได้เร่งพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร
ให้ครอบคลุมธุรกิจสหกรณ์ทุกประเภท รวมทั้งรองรับ
กับการบริหารงานสหกรณ์และการให้บริการสมาชิก 
ซึ่งในปี 2554  กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ก็ได้เร่ง
ขยายผลการสร้างมาตรฐานระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูล
สหกรณ์ออมทรัพย์กับระบบ ATM ของธนาคารให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
       สำหรับโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์เวอร์ชั่นล่าสุด (Saving 2.1 Plus) 
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้มุ่งเน้นพัฒนาระบบจ่ายตรง ให้สามารถส่งข้อมูลการเรียกเก็บเงิน
ประจำงวดไปยังหน่วยงานการเงินของสมาชิกในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์  ระบบสอบถามข้อมูลสมาชิกสำหรับบริการข้อมูลแก่สมาชิกในการสอบถามค่าหุ้น  เงินกู้ และเงินฝากด้วย
ตนเอง  ระบบรับ-จ่ายเงิน  ที่เพิ่มเติมสำหรับกรณีที่ใน 1 สัญญามีการจ่ายเงินกู้มากกว่า 1 ครั้ง 
และกรณีที่มีการจ่ายเงินรางวัลเป็นค่าหุ้น  โดยจะดำเนินการเพิ่มค่าหุ้นให้สมาชิกทุกคนใน
วันเดียวกันด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆ กัน  อีกทั้งเพิ่มรูปแบบการออกใบเสร็จรับเงินในลักษณะ
ปกปิดหรือแบบไม่พิมพ์สำเนา  รวมไปถึงการรับ-จ่ายเงิน ผ่านระบบ ATM ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมในส่วนของ ระบบจัดทำงบการเงิน ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ 
นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด ได้แก่ การจัดทำงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และ
หมายเหตุประกอบงบการเงิน  ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถปรับเพิ่มเติมรายการในงบการเงินได้ตาม
ความต้องการอีกด้วย รวมทั้งมีรายงานสำหรับผู้บริหารโดยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของอัตรา
ส่วนทางการเงินและกราฟเปรียบเทียบ
 
        “กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  ได้เร่งพัฒนาต่อยอดโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะการพัฒนาระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลสมาชิกสหกรณ์
เข้ากับเครือข่าย ATM ของธนาคาร  เพื่อขยายคุณภาพการให้บริการแก่สมาชิกสหกรณ์ให้
สามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านเครื่อง ATM ได้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกรวดเร็วให้แก่
สมาชิก และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของสหกรณ์อีกด้วย”  นายสิงห์ทอง  กล่าว