สำหรับรายงานผลการตรวจสอบบัญชี จะเป็นการสรุปข้อสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลในประเด็นสำคัญ ๆ ดังนี้
๑.) ข้อสังเกตที่ตรวจพบจากการตรวจสอบเกี่ยวกับจุดอ่อนของการควบคุมภายใน ผู้สอบบัญชีจะแจ้งให้สหกรณ์ทราบว่าจากการตรวจสอบบัญชี ยังมีจุดใดบ้างที่สหกรณ์ควรควบคุมดูแลให้ถูกต้องและเหมาะสม และกำหนดมาตรการในการป้องกัน ป้องปราม หรือแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องต่อไป ข้อสังเกตที่ผู้สอบบัญชีตรวจพบส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง เงินสดขาดบัญชี สินค้าขาดบัญชี การไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของสหกรณ์ ทั้งด้านสินเชื่อ เงินรับฝาก การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย การจัดทำบัญชีและงบการเงินไม่เรียบร้อย ไม่ครบถ้วน และการไม่รักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูล
๒.) ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเงิน ผู้สอบบัญชีจะวิเคราะห์ข้อมูลใน ๖ มิติ ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กัน ดังนี้
ด้านความเพียงพอของเงินทุน เป็นการบอกให้ทราบถึงโครงสร้างเงินทุนที่สหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรได้มาเพื่อใช้ในการดำเนินงานว่า ได้มาจากทุนของตัวเองหรือจากหนี้สิน (ส่วนใหญ่จะเป็นเงินรับฝากและเงินกู้ยืม) เงินทุนเหล่านี้ถ้ามีความเพียงพอและเข้มแข็ง ก็อาจนำไปลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาวได้ อัตราส่วนสำคัญที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์ ได้แก่ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อัตราทุนสำรองต่อสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน หรือ ROE สิ่งที่สหกรณ์ต้อง พึงระวังคือ การได้มาและการใช้ไปของเงินทุนควรมีความเหมาะสมทั้งช่วงเวลาและจำนวนเงิน มิฉะนั้นอาจทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ เช่น สหกรณ์ได้เงินทุนมาจากการก่อหนี้โดยการกู้ยืมระยะสั้นแต่ได้นำเงินไปใช้ลงทุนในระยะยาว ซึ่งอาจทำให้สหกรณ์มีเงินไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายชำระคืนเจ้าหนี้
ด้านคุณภาพของสินทรัพย์ เป็นการวิเคราะห์ว่าสหกรณ์ได้นำเงินทุนที่ได้มาไปใช้ให้เกิดประโยชน์หรือผลตอบแทนในสินทรัพย์ใดบ้าง เช่น ให้สมาชิกหรือสหกรณ์กู้ ลงทุนในหลักทรัพย์ ฝากที่สหกรณ์อื่น สินค้าหรือลงทุน ในครุภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อาคาร รถยนต์ หรืออุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและให้บริการสมาชิก ได้อย่างรวดเร็ว อัตราส่วนสำคัญที่นำมาวิเคราะห์ เช่น อัตราหมุนของสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ หรือ ROA อัตราหนี้ค้างชำระ ดังนั้น หากสินทรัพย์ที่สหกรณ์นำไปลงทุนมีปัญหา เช่น ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ถอนเงินฝากสหกรณ์อื่นไม่ได้ สถาบันการเงินที่นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์มีปัญหา มีสินค้าคงเหลือมาก หรือใช้ครุภัณฑ์ไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ต่อการลงทุน ก็อาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนและผลการดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
ด้านความสามารถในการบริหารธุรกิจและความสามารถในการทำกำไร เป็นการวิเคราะห์ว่าในรอบปีบัญชีสหกรณ์มีมูลค่าการดำเนินธุรกิจอย่างไร มีการเติบโตเพิ่มขึ้น หรือถดถอยจากปีก่อนเพียงใด ซึ่งจะสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานของสหกรณ์ว่าธุรกิจใดบ้างที่ทำแล้วมีกำไร หรือ ขาดทุน หรือมีกำไรแต่ลดลงจากปีก่อน สาเหตุเกิดจากอะไร รายได้ลดลง ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากรายการใด เพื่อสหกรณ์จะได้ควบคุมให้เหมาะสมต่อไป อัตราส่วนที่สำคัญ เช่น อัตรากำไรสุทธิ อัตราค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เป็นต้น
ด้านสภาพคล่อง เป็นการวิเคราะห์ว่าสหกรณ์มีสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้นเหมาะสมเพียงใด โดยเปรียบเทียบสินทรัพย์ระยะสั้นกับหนี้สินระยะสั้นของสหกรณ์ว่ามีความเหมาะสมเพียงใด สินทรัพย์ระยะสั้นของสหกรณ์มีเพียงพอต่อการชำระคืนเจ้าหนี้ระยะสั้นหรือไม่ ซึ่งจะสัมพันธ์กับคุณภาพของสินทรัพย์ด้วย เพราะถ้าสินทรัพย์ระยะสั้นของสหกรณ์ไม่มีปัญหาใด ก็จะมีความคล่องตัวที่จะแปรสภาพเป็นเงินสดได้ง่าย อัตราส่วนที่สำคัญ เช่น อัตราส่วนทุนหมุนเวียน อัตราหมุนของสินค้า อัตราหมุนของลูกหนี้การค้า อัตราลูกหนี้ที่ชำระหนี้ได้ตามกำหนด เป็นต้น
ผลกระทบของธุรกิจสหกรณ์ เป็นปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของสหกรณ์ อาทิ กฎ ระเบียบ เทคโนโลยี ภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การเมือง นโยบายรัฐบาล ความเชื่อมั่น ศรัทธาในระบบสหกรณ์ ปัจจัยเหล่านี้สหกรณ์ควรนำพิจารณาประกอบการบริหารจัดการและ การดำเนินงานของสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง |