กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  ไอเดียเจ๋ง  จัดตั้ง “เอ็น-ซีฟิค”  ศูนย์วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงินสหกรณ์แห่งชาติ เสริมฐานแกร่งให้ภาคสหกรณ์ เตรียมเปิดตัวยิ่งใหญ่ 23 ก.ย. นี้l

     นายสิงห์ทอง  ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กล่าวว่า  ภารกิจหลักของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คือ การตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร  โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร  ดังนั้น  เพื่อให้สหกรณ์มีแหล่งข้อมูลที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของตนเอง  กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  จึงเร่งเดินหน้าจัดตั้งศูนย์วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงินสหกรณ์แห่งชาติ (National  Cooperative  Economics  and  Financial Indicators  Center  :  N‘CEFIC) หรือ เอ็น-ซีฟิค ในรูปแบบของกระดานข้อมูล (Dash Board) หมือนกระดานข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์  แต่ออกมาในลักษณะข้อมูลของภาคสหกรณ์แบบ Real Time บนเว็บไซต์ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 
       สำหรับศูนย์วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงินสหกรณ์แห่งชาติหรือ เอ็น-ซีฟิค นั้น นับว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของสหกรณ์  ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจมหภาค (GDP) ของภาคสหกรณ์  โดยนำเสนอข้อมูลภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์ทั่วทั้งประเทศ  ทั้งในมิติของภาพรวมสหกรณ์ทั้งระบบ  ในมิติของสหกรณ์ภาคเกษตร  นอกภาคเกษตร  และในมิติของสหกรณ์แต่ละประเภททั้ง 7 ประเภทหรือเฉพาะกลุ่มเกษตรกร  ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์  ปริมาณธุรกิจ  รวมไปถึงดัชนีชี้วัดการออม
ดัชนีชี้วัดการบริโภคของภาคสหกรณ์ไทย  ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นของภาคสหกรณ์
ไทย
ต่อภาวะเศรษฐกิจ  สังคม  และการเงินของประเทศ  ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถนำข้อมูลไปใช้อ้างอิงทางวิชาการได้  ในขณะเดียวกันสหกรณ์ก็จะได้วิเคราะห์และประเมินตนเอง  โดยการบริโภคข้อมูลเชิงลึกเป็นรายสหกรณ์ที่มีการเปรียบเทียบองค์กรตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานหรือกลุ่มอ้างอิง  เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลมาตัดสินใจในการบริหารงานต่อไป
        “ภายหลังจากที่ได้หารือการจัดตั้งศูนย์วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงินสหกรณ์แห่งชาติกับผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประกอบกับการเชิญสหกรณ์มาร่วมสนทนากลุ่ม (Focus Group) วัดผลความต้องการและความพึงพอใจกันไปเรียบร้อยแล้ว  
 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  เตรียมจัดงานเปิดตัวศูนย์ฯ ดังกล่าว  ในวันที่ 23 กันยายน 2554 นี้ 
เพื่อใช้งานอย่างเป็นทางการเตรียมพร้อมสู่การขยายผลและปรับปรุงข้อมูลให้สอดคล้องกับภาคสหกรณ์มากที่สุด  จะได้มีฐานข้อมูลสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาภาคสหกรณ์ไทยต่อไป” นายสิงห์ทอง  กล่าว