พ.จ.ท.เฉลียว น้อยแสง ครูบัญชีอาสา ลดต้นทุนการผลิต พิชิตความจน
 
        พ.จ.ท.เฉลียว น้อยแสง เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี 2559 จากจังหวัดชัยนาท ปัจจุบันประกอบอาชีพทำนาและปลูกผักกางมุ้ง และเป็นประธานนาแปลงใหญ่จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นผู้ที่จดบันทึกบัญชีต้นทุนอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง และนำข้อมูลจากการจดบันทึกบัญชีมาวิเคราะห์วางแผนการดำเนินงานด้านการเกษตร จนทำให้สามารถหาปัจจัยในการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตได้ โดยมีแนวความคิดที่ว่า "..บันทึกต้นทุนการผลิต พิชิตความจน..”
        ครูเฉลียว เดิมประกอบอาชีพรับราชการทหาร ภายหลังผันตัวเองมาประกอบอาชีพเลี้ยงวัวและเลี้ยงไก่ แต่ก็ประสบปัญหาราคาตกต่ำ จึงได้หันมาประกอบอาชีพทำนา โดยมีการจดบันทึกบัญชีต้นทุนอาชีพ เพื่อนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้วิเคราะห์หาปัจจัยในการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิต ทั้งนี้ ยังได้ทำบัญชีเป็นตัวอย่างให้คนในชุมชน เกษตรกรในพื้นที่นาแปลงใหญ่และเกษตรกรทั่วไป ได้เห็นถึงประโยชน์ของการทำบัญชีที่จะนำมาใช้กับชีวิตประจำวันของแต่ละคน เพื่อให้รู้ว่าการทำบัญชีสามารถเปลี่ยนอาชีพได้จริง โดยนำความรู้และประสบการณ์มาอบรมสอนแนะให้คนในชุมชนได้จดบันทึกบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพในการทำนาแต่ละฤดูกาล เพื่อให้รู้ถึงรายรับ-รายจ่ายที่เกิดขึ้น แล้วนำมาวางแผนการใช้จ่ายเงินให้เกิดคุณค่าและมีเงินออมในอนาคต
        ครูเฉลียวได้สร้างผลงานที่โดดเด่นโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูก โดยเลือกวิธีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อาทิ การทำเครื่องโรยข้าวนาน้ำตมช่วยลดต้นทุนการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูกที่ประสบปัญหาสภาวะวิกฤตการณ์น้ำ และทำให้ได้รับรางวัลปราชญ์เกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้รับฉายา ว่า "ลูกประดู่ผู้แกล้งข้าว” การใช้สมุนไพรกำจัดโรคแมลง ใช้ฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นเอง เพื่อทดแทนฮอร์โมนวิทยาศาสตร์และเป็นการลดต้นทุนในการผลิต มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เอง ให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชัยนาท และจำหน่ายให้กับคนในชุมชน อีกทั้งยังก่อตั้งวิสาหกิจชุมชน ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง เพื่อลดการใช้สารเคมี รวมถึงการเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดทำบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือน บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ และบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อให้ใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาความยากจน
        ครูเฉลียว ได้ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชีของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2548 ถึง ปี พ.ศ.2559 ปัจจุบันครูเฉลียวยังทำหน้าที่เป็นครูบัญชีอาสาและเป็นรองประธานกรรมการชมรมครูบัญชีอาสาของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ชัยนาท อีกทั้งเป็นประธานนาแปลงใหญ่อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ซึ่งมีสมาชิกภายในแปลงใหญ่ จำนวน 221 คน โดยทุกคนได้รับการสอนแนะและฝึกปฏิบัติการจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพ จนสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลวางแผนค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรได้ อีกทั้งยังร่วมเป็นวิทยากรสอนแนะบัญชีตามโครงการต่างๆ ของหน่วยงานในจังหวัดชัยนาท เพื่อสอนแนะให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักคิด รู้จักจ่าย รู้จักออม และเกิดแรงจูงใจที่จะปรับเปลี่ยนตนเองสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ก่อให้เกิดแนวคิดพัฒนาอาชีพ ทำให้รู้รายได้ รู้รายจ่าย มีเงินออม ก้าวสู่การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการสร้างเป็นรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนได้
         ครูเฉลียวจึงถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำการเกษตรที่ใช้ "บัญชี” เป็นเข็มทิศชี้นำทาง ทำให้สามารถเตรียมความพร้อมในการวางแผนค่าใช้จ่ายในฤดูกาลผลิตต่อไปได้ ปลูกฝังการใช้ชีวิตแบบพออยู่พอกิน การพึ่งพาตนเอง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชน โดยมีบัญชีเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาความยากจน นำไปสู่การดำเนินชีวิตตามแบบวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สร้างคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นไป.