กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์
       เดินหน้าจัดระดับสหกรณ์ 5 กลุ่ม พร้อมให้บริการสอบบัญชี
       และแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
 
          นายสมปอง อินทร์ทอง อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีภารกิจสำคัญ ในการสร้างความเข้มแข็งและความโปร่งใสในด้านการบริหารจัดการการเงินการบัญชีให้กับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และเกษตรกรทั่วประเทศ โดยการเข้าไปตรวจสอบบัญชีและสร้างมาตรฐานให้กับระบบบัญชี รวมทั้งการสร้างมาตรฐานของผู้สอบบัญชีภาครัฐและภาคเอกชน ให้มีความเข้มแข็งและเป็นมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นคุณภาพการตรวจสอบบัญชี ให้มีคุณภาพ และมีความโปร่งใส พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้สอบบัญชีทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจัดกลุ่มผู้สอบบัญชี ตามความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดและความซับซ้อนของการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ โดยผู้สอบบัญชีจะเข้าไปประเมินความเสี่ยง การควบคุมภายในของสหกรณ์ และการปฏิบัติงานของสหกรณ์ว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือไม่
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการพัฒนาระบบการตรวจสอบมาตรฐานทางบัญชีของสหกรณ์ ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีการเฝ้าระวังหรือป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะ เกิดขึ้นกับสหกรณ์ โดยจัดระดับสหกรณ์ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อให้บริการสอบบัญชีและแก้ไขปัญหาให้ตรงประเด็น ดังนี้ 1. กลุ่มดี สามารถตรวจสอบบัญชีได้ตามปกติ 2. กลุ่มพอใช้ เป็นกลุ่มที่อาจมีความบกพร่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยมีการจัดตั้งทีมตรวจสอบพิเศษระดับจังหวัด เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ และสอนแนะที่เหมาะสม 3. กลุ่มต้องแก้ไข เป็นสหกรณ์ที่มีข้อบกพร่องต้องให้คำปรึกษา แนะนำหรือสอนแนะเร่งด่วน โดยมีการจัดตั้งทีมตรวจสอบพิเศษระดับภาค เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ สอนแนะ และติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด 4. กลุ่มอาจถูกสั่งยกเลิก/ต้องเลิกตามกฎหมาย หากพบว่าการดำเนินธุรกิจไม่เกิดผลดีกับสหกรณ์ หรือหยุดดำเนินธุรกิจ จะเสนอให้นายทะเบียนสหกรณ์สั่งเลิกและชำระบัญชี 5. กลุ่มตั้งใหม่ ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะเข้าไปช่วยเหลือในการวางระบบบัญชีและระบบการควบคุมภายในที่ดี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสหกรณ์และสมาชิก
        "นอกจากนี้ กรมฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนผู้สอบบัญชี เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้สอบบัญชีให้สามารถปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งในปีงบประมาณ 2559 นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังได้ดำเนินการในการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังทางการเงินการบัญชี (offsite) เพื่อติดตาม/ประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจ/เตือนภัยและกำหนดแนวทางป้องกัน นอกจากนี้ ยังมีการตรวจเยี่ยมสำนักงานสอบบัญชีสหกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส และความเข้มแข็งในสหกรณ์ด้วย” นายสมปอง กล่าว.