กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดงานวันสถาปนาครบรอบ ๖๓ ปี
มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพ เสริมสร้างธรรมาภิบาลในระบบสหกรณ์
 
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ครบรอบ ๖๓ ปีแห่งการ สถาปนา จัดประชุมสัมมนาเรื่อง"Quality Excellency ปีแห่งความเป็นเลิศในด้านคุณภาพ”นำสู่คุณภาพที่ดีในการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีของสหกรณ์และสถาบันเกษตรกร เสริมสร้างธรรมาภิบาลในระบบสหกรณ์ พร้อมเป็นแหล่งข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการเงินและการดำเนินธุรกิจสหกรณ์
           นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา ๖๓ ปี ที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีบทบาทสำคัญในการเป็นองค์กรพัฒนาระบบการเงิน การบัญชีของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรของประเทศ ให้เกิดความโปร่งใส เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างบุคคลากรในขบวนการสหกรณ์ให้เป็นนักบริหารงานบัญชีสหกรณ์สู่ความเป็นมืออาชีพ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและติดอาวุธทางปัญญาให้กับขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรของประเทศให้มีความเข้มแข็ง โดยส่งเสริมการใช้ "บัญชี” เป็นเครื่องมือนำทางให้ผู้ทำบัญชี รู้จักคิด รู้จักจ่าย รู้จักออม และเกิดแรงจูงใจที่จะปรับเปลี่ยนตนเองสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ก่อเกิดแนวคิดพัฒนาอาชีพ ทำให้รู้รายได้ รู้รายจ่าย มีเงินออม ก้าวสู่การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ ได้มีการพัฒนางานสอบบัญชีสหกรณ์มาเป็นระยะ มีการส่งเสริมให้ความรู้ด้านการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและเกษตรกรทั่วไป การพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ พัฒนาโปรแกรมระบบตรวจสอบสหกรณ์เชิงลึก สนับสนุนให้มีการนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกร รวมทั้งพัฒนากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้เป็นแหล่งข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการเงินและการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ โดยในปีนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังคงมุ่งมั่นให้เป็นปีแห่งความเป็นเลิศในด้านคุณภาพเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาการดำเนินงานให้ครอบคลุม ๔ ด้านหลัก ได้แก่
         ๑. การสร้างมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชี โดยสานต่อการพัฒนาคุณภาพการสร้างมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชี ควบคู่การสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจด้านการสอบบัญชีสู่ผู้สอบบัญชี โดยได้ปรับปรุงระบบงานด้านการกำกับดูแลสหกรณ์ให้สอดคล้องกับคำแนะนำนายทะเบียนสหกรณ์ และสอดคล้องกับระดับชั้นของสหกรณ์ การเสริมศักยภาพให้ผู้สอบบัญชี และการพัฒนาระบบการตรวจสอบกิจการ
          ๒. การพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ เป็นการพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ ส่งผล สู่ความสำเร็จในการนำโปรแกรมบัญชีสหกรณ์ไปใช้ ซึ่งปัจจุบันมีสหกรณ์กว่า ๒,๐๐๐ แห่งที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการสหกรณ์ด้วยโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ รวมถึงสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้
          ๓. การประสานงานโครงการพระราชดำริ มุ่งมั่นในการดำเนินงานสนองตามพระราชดำริ โดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาใช้เป็นแนวทางในการณรงค์และส่งเสริมให้แก่เกษตรกรได้เรียนรู้การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงในอาชีพด้วยการบันทึกบัญชี
          ๔. สู่ความเป็นเลิศด้านการประกอบอาชีพและการบันทึกบัญชี เพื่อให้สามารถวิเคราะห์รายรับ รายจ่าย ในชีวิตประจำวันและในการประกอบอาชีพ สร้างความเข้มแข็งในครัวเรือน ทั้งนี้ ได้สร้างและพัฒนาครูบัญชีอาสาอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นบุคคลต้นแบบที่มีความรู้ ความสามารถ ประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง อีกทั้งมีความชำนาญในการบริหารจัดการ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชี พร้อมนำมาวางแผนในการผลิต การจำหน่าย และการลดต้นทุนการผลิต ขณะเดียวกันยังถ่ายทอดความรู้ทางบัญชีสู่ชุมชน ทำให้เกิดเครือข่ายครูบัญชีอาสาที่เข้มแข็ง
          อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ในปี ๒๕๕๘ นี้ เป็นปีสำคัญที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ครบรอบ ๖๓ ปีแห่งการสถาปนา ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๘ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงจัดให้มีกิจกรรมพิเศษ ภายใต้หัวข้อ"Quality Excellency ปีแห่งความเป็นเลิศในด้านคุณภาพ” ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๒ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อเป็นการเผยแพร่บทบาท ภารกิจ ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้และการให้บริการต่างๆ ตลอดจนผลสำเร็จของการดำเนินงานที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ดำเนินการและขยายผลสู่กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะเป็นองค์กรที่พัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านการเงินและการบัญชีของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้โปร่งใส เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ อีกทั้ง เพื่อให้ข้าราชการของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน ผู้บริหารสหกรณ์ สถาบันการเงิน 
นักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับความรู้เกี่ยวกับการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในระบบสหกรณ์ และทราบแนวคิดของผู้ที่ใช้บริการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จและมีความเป็นเลิศในด้านคุณภาพ ตลอดจนได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นระหว่างผู้เข้าร่วมการประชุมสัมมนา พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกรมฯ โดยได้รับเกียรติจากนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน นอกจากนี้ ยังจัดให้มีกิจกรรมเสวนาทางวิชาการในหัวข้อ "การเสริมสร้าง ธรรมาภิบาลในระบบสหกรณ์” บรรยายโดย นายกล้าณรงค์
จันทิก สมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๗ และการเสวนาเรื่อง "หลากหลายมิติสู่ความเป็นเลิศของผู้ใช้บริการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์” โดยเชิญผู้แทนจากภาคสหกรณ์ ได้แก่ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสามชุก จำกัด สหกรณ์การเกษตรสุรินทร์ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด และครู นักเรียน จากโรงเรียนอนุบาลอ่างทอง ซึ่งภายในงานจัดให้มีการแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งนิทรรศการเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นวัตกรรมต่างๆ ที่กรมฯ นำมาช่วยเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานสอบบัญชีมีคุณภาพ และการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงผลงานเชิงประจักษ์ของกรมฯ รวมถึงนวัตกรรมที่กรมฯ นำมาช่วยเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน โดยมุ่งเน้นที่ความเป็นเลิศในด้านคุณภาพ (Quality Excellency :QE) เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนทั่วไป ให้ทราบถึงภารกิจและผลงานของกรมฯ ตลอดจนภารกิจที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในอนาคต เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของสถาบันเกษตรกร และธุรกิจของสหกรณ์ประเภทอื่นๆ มีความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าในระดับภูมิภาค บุคลากรมีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนางานสหกรณ์ให้มีความก้าวหน้าและนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการบริหารจัดการงานของสหกรณ์ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดการค้าเสรีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปลายปี พ.ศ.๒๕๕๘ นี้.