กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เสริมทักษะบุคลากร ให้บริการโปรแกรมระบบบัญชี
สหกรณ์ครบวงจร สำหรับสหกรณ์ ภาคเกษตร อย่างมีประสิทธิภาพ
 
         กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ ปี ๒๕๕๘ หวังเสริมทักษะบุคลากรกรมฯ ทำหน้าที่ให้บริการการติดตั้งและดูแลการใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) สำหรับสหกรณ์ภาคเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมได้รับความรู้ ความเข้าใจการทำงานของโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรที่มีการพัฒนาต่อยอดขึ้น
          นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้พัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้บริการติดตั้งแก่สหกรณ์ทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร ทำให้สหกรณ์มีเครื่องมือใช้ในการบันทึกบัญชีที่มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง สะดวกและรวดเร็ว มีระบบการควบคุมภายในที่ดี อันจะส่งผลให้ผู้สอบบัญชีสามารถตรวจสอบบัญชีได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นไป ตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้พัฒนาปรับปรุงโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรของสหกรณ์ภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร Version ใหม่ๆ เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ให้ครอบคลุมและครบถ้วน เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินงานให้บริการสมาชิกได้อย่างรวดเร็วแบบ One Stop Service
          อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น บุคลากร ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ทำหน้าที่ให้บริการโปรแกรมในสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๑-๑๐ และสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ในแต่ละจังหวัด จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมที่จะสามารถให้บริการโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรแก่สหกรณ์ได้ กรมฯ จึงจัดให้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ ปี ๒๕๕๘ ขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมซึ่งเป็นบุคลากรของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ทำหน้าที่ให้บริการการติดตั้งและดูแลการใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการทำงานของโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร สำหรับสหกรณ์ภาคเกษตร ที่มีการพัฒนาต่อยอดขึ้นจากโปรแกรมเดิม ได้แก่ โปรแกรมระบบสมาชิกและหุ้น และโปรแกรมระบบสินค้า ได้ฝึกปฏิบัติเพื่อเพิ่มทักษะและความชำนาญในการใช้งาน จนสามารถนำไปใช้ในการให้บริการติดตั้ง อบรม สอนแนะแก่สหกรณ์ และบุคลากรของกรมฯ ได้ รวมทั้งได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นระหว่างวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรม เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงระบบต่างๆ ของโปรแกรม ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้สหกรณ์สามารถใช้ข้อมูลทางบัญชีในการควบคุม ดูแลและติดตามผลการดำเนินงานได้ ทั้งนี้ การอบรมดังกล่าว จัดขึ้นทั้งหมด ๓ รุ่น มีผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ ๑-๑๐ และสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ในแต่ละจังหวัด รวม ๙๗ คน โดยจัดอบรมระหว่างเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ ณ ห้องฝึกอบรม ชั้น ๔ อาคาร ๔ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์.