กตส. จัดอบรม 3 หลักสูตร หวังแปลงความรู้สู่การปฏิบัติงานจริง
 
       เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2554  นายสิงห์ทอง  ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์
  ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะ
เพิ่มพูนประสบการณ์แก่ข้าราชการในสังกัด 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร “การวิเคราะห์ภาวะ
เศรษฐกิจและการเตือนภัยทางการเงิน
”  หลักสูตร “การพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ ปี 54
” และหลักสูตร “สมรรถนะเครือข่ายภูมิปัญญาทางบัญชีต้นทุนอาชีพ”
โดยมุ่งหวังให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านต่างๆ ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
อย่างมีประสิทธิภาพ โรงแรมเอเชีย  ราชเทวี  กรุงเทพมหานคร
         สำหรับหลักสูตร “การวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเตือนภัยทางการเงิน”  เป็นการ
อบรมให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานสอบบัญชีจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1-10 และส่วนกลาง 
รวม 60 คน เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือตรวจสอบมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจและสังคมในระบบสหกรณ์
(
SEVA
) เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เครื่องมือ SEVA 2009 ได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางการเงินแก่ผู้บริหารสหกรณ์
โดยมีการศึกษาดูงานจริง
ในภาคสหกรณ์ด้วย ซึ่งหลักสูตรนี้กำหนดอบรม 9 วัน ระหว่างวันที่ 13-21 มกราคม 2554
         ส่วนหลักสูตร “การพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี 54” จัดขึ้นระหว่างวันที่
13-23 มกราคม 2554 รวม 11 วัน อย่างเข้มข้น ทั้งการบรรยาย สาธิต ฝึกปฏิบัติ และแบ่งกลุ่ม
ทำกิจกรรม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นผู้
ปฏิบัติหน้าที่ด้านเทคโนโลยี จากสำนักงานตรวจบัญชี
สหกรณ์ที่ 1-10 จำนวน 50 คน ได้รับความรู้ความเข้าใจ และสามารถใช้งานโปรแกรมระบบบัญชี
สหกรณ์ครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ รวมถึงรู้และเข้าใจในระบบการจัดการ
ด้าน
เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย สามารถควบคุมดูแลและปฏิบัติงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
         ส่วนทางด้านหลักสูตร “สมรรถนะเครือข่ายภูมิปัญญาทางบัญชีต้นทุนอาชีพ" จัดขึ้นระหว่าง
วันที่ 13-15 มกราคม 2554 เพื่อผลักดันภูมิปัญญาทางบัญชีต้นทุนอาชีพให้ไปสู่เกษตรกรกลุ่ม
เป้าหมายต่างๆ โดยผ่านเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1-10 จำนวน
53 คน ซึ่งหลักสูตรนี้มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามโครงการพัฒนา
ภูมิปัญญาทางบัญชีสู่บัญชีต้นทุนอาชีพ และสามารถประสานงานในเครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ นำไปสู่การต่อยอดในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป