กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระตุ้นเยาวชนนักเรียนเป็นเครือข่ายทำบัญชี
เสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่อความปรองดองในประเทศ
 
          กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดอบรมโครงการรณรงค์การจัดทำบัญชีแก่เยาวชนนักเรียน (สานต่อ
         ปีที่ 6) หวังให้เยาวชนนักเรียนเป็นกลไกขับเคลื่อนการถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีสู่ครัวเรือนและชุมชน
 
       นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เห็นถึงความสำคัญของเยาวชนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยการสร้างวินัยในการออมให้กับเยาวชนด้วยการสอนบัญชีครัวเรือนในโรงเรียน เพื่อให้เยาวชนนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งที่มีการเรียนรู้และการรับรู้ได้รวดเร็ว สามารถเป็นเครือข่ายที่ดีให้กับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เผยแพร่การจัดทำบัญชีไปสู่บุคคลในครอบครัว ทั้งนี้ การสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจในครัวเรือนถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทยสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้น้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่อง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับครัวเรือน ซึ่งบัญชีถือเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจของครัวเรือน และการใช้จ่ายเงิน การออมจึงเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดเงื่อนไขในเรื่องของคุณธรรม การลด ละ เลิกอบายมุขของเยาวชน การมีความรู้ในการที่จะดำรงชีวิตต่อไปอย่างแข็งแรงและมั่นคง รวมทั้งการสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตแก่ตนเอง พ่อแม่ เพื่อนบ้าน และสังคม 
    
 
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์เป็นหน่วยงาน ราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้รับนโยบายจากผู้บริหารระดับสูง โดยทาง
คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายสร้างความเข้มแข็งในเรื่องเศรษฐกิจพื้นฐานให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง รวมทั้งการปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งบัญชีเป็นเรื่องหนึ่งที่นำมาใช้ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ครัวเรือน บุคลากร และประชาชนในประเทศไทยได้
     "การทำบัญชีสามารถสร้างความรัก ความร่วมมือ ร่วมใจ และความไว้เนื้อเชื่อใจกันให้กับคนในครอบครัวซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดอง เพราะฉะนั้นความปรองดองจึงต้องเริ่มจากครอบครัว เมื่อมีจิตสำนึกที่ดีในเรื่องของความรัก ความสามัคคี ความเชื่อใจกันแล้วก็จะขยายออกไปในสังคม ชุมชน ซึ่งก็จะทำให้ประเทศมีความมั่นคง และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานให้แข็งแรง น้อมนำไปสู่เรื่องความปรองดองในประเทศชาติได้” นายวิณะโรจน์ กล่าว