เดินหน้า ชู มาตรฐานการใช้งาน FAS  พร้อมเร่งสร้างสหกรณ์ต้นแบบ
ผลักดันการสหกรณ์ให้ก้าวไกลอย่างครบวงจร
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มองการณ์ไกลเสริมความแข็งแกร่งแก่ภาคสหกรณ์ เร่งส่งเสริมใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรโดยสมัครใจ พร้อมกระตุ้น จัดประกวด “สหกรณ์ต้นแบบ” ประเภทละ 1 แห่ง หวังขยายผลและสร้างแหล่งศึกษาดูงาน เข้าถึงประโยชน์ของภาคสหกรณ์อย่างครบวงจร
 
       นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  
 เปิดเผยว่า ปัจจุบันถือเป็นยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศ 
 ที่เน้นความทันสมัย และรวดเร็ว ซึ่งหน่วยงานภาครัฐจะต้อง
 ปรับเปลี่ยนให้ทันสภาวการณ์ดังกล่าว ในฐานะที่กรมตรวจ
 บัญชีสหกรณ์ มีภารกิจหน้าที่ในการพัฒนาระบบบัญชี
 สหกรณ์  จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาและออกแบบระบบ
 บัญชีให้มีความทันสมัยและมีคุณภาพ โดยสร้างและพัฒนา
 โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (Cooperative Full 
 Pack  Accounting  Software : FAS) พร้อมที่จะสนับสนุน
 ให้สหกรณ์เข้าใช้งาน ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วย
 บริหารจัดการงานภาคสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
       โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรพัฒนาโดย
 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้รับการออกแบบให้ครอบคลุม 
 ตามธุรกิจของสหกรณ์ อาทิ ระบบสมาชิกและหุ้น (Member
 System) ระบบเงินให้กู้ (Loan System) ระบบเงินรับฝาก
 (Deposit  System) ระบบสินค้า (Inventory System)      
และระบบบัญชีแยกประเภท (General  Ledger  System) ซึ่งในปีที่แล้วมา มีสหกรณ์ที่ติดตั้ง FAS กว่า 2,000 แห่ง คิดเป็นร้อยละ  33.90 ของสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจ และสำหรับปี 2554 
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  พร้อมเดินหน้าให้การสนับสนุนสหกรณ์ที่ต้องการใช้งาน FAS โดย
สมัครใจ เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลและการสร้างเครือข่ายสหกรณ์ โดยดูแล 2 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มสหกรณ์สมัครใจที่สามารถใช้งานได้ด้วยตนเอง และกลุ่มสหกรณ์สมัครใจที่ต้องการความช่วยเหลือ
       สำหรับกลุ่มสหกรณ์สมัครใจที่สามารถใช้งานได้ด้วยตนเองแล้วนั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  จะทำการปรับเปลี่ยนระบบให้สหกรณ์หันมาใช้งาน FAS เพียงระบบเดียว เพื่อสนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ในขณะเดียวกัน ก็ได้จัดอบรมโครงการพัฒนาความรู้สารสนเทศด้านบัญชีแก่สหกรณ์ (MIS) เพื่อสร้างองค์ความรู้ในเชิงการจัดระบบงาน ห้แก่ผู้บริหารสหกรณ์ โดยหวังสร้างและผลักดัน “สหกรณ์ต้นแบบ” ในการให้บริการสมาชิกแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ตลอดจนสามารถจัดระบบการควบคุมภายในที่เหมาะสมภายในองค์กร รวมไปถึงผู้บริหารสหกรณ์จะต้องสามารถใช้งานสารสนเทศจาก FAS ให้เกิดประโยชน์ในการบริหารงานด้วย และเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้สหกรณ์มุ่งสู่การเป็น “สหกรณ์ต้นแบบ” ด้าน FAS กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงมีแนวคิดจัดประกวด “สหกรณ์ต้นแบบ” ประเภทละ 1 แห่ง  เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้สหกรณ์อื่นๆ มุ่งมั่นและเกิดการพัฒนาตนเอง ตลอดจนเป็นการขยายเครือข่ายของแหล่งศึกษา
ดูงานภาคสหกรณ์
       ในส่วนของกลุ่มสหกรณ์สมัครใจที่ยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐนั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมและยินดีที่จะให้การอบรม สอนแนะ กำกับ และช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะทำให้สหกรณ์สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยจัดอบรมในโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการเงินและการบัญชี แก่พนักงานบัญชีของสหกรณ์ เพื่อวางรากฐาน เตรียมสู่การใช้ FAS อย่างสมบูรณ์ สำหรับในด้านมาตรการการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีนั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ก็ได้เพิ่มระดับการใช้งานโปรแกรมตรวจสอบบัญชี ACL (Audit Command Language) ขนานไปกับระบบตรวจสอบสหกรณ์เชิงลึก CATS (Cooperative Audit Through System) ด้วย เพื่อรองรับให้งานสอบบัญชีสหกรณ์ที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีมีมาตรฐาน และประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ระบบ FAS ในปี 2554 นั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีแผนเพิ่มศักยภาพของ FAS โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลให้เกิดระบบช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารสหกรณ์ (MIS) ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบสมาชิกและหุ้น และระบบเงินให้กู้ ที่เชื่อมโยงข้อมูลสู่ระบบเตือนภัย ระบบเงินรับฝาก ที่จะขยายสู่ระบบสาขาที่สามารถฝากถอนต่างสาขาได้แบบ online  ระบบบัญชีแยกประเภท พัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของงบกระแสเงินสดและหมายเหตุประกอบงบการเงิน รวมทั้งการนำเสนอข้อมูลเตือนภัยโดยอัตโนมัติ และระบบสินค้า
ที่เพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยี เพื่อให้บริการสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สำหรับสหกรณ์ประเภทออมทรัพย์นั้น ก็จะมุ่งขยายผลการเชื่อมโยงระบบ ATM ต่อเนื่องจากที่ได้นำร่องไปแล้ว

       “...ปัจจุบันนี้เป็นยุคของไอที ในเรื่องการพัฒนาระบบบัญชีเป็นหน้าที่ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่จะต้องมีการออกแบบ ซึ่งเมื่อก่อนต้องทำด้วยมือ แต่ปัจจุบันมีการทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเราจะมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ก็ได้รับความพึงพอใจในการนำระบบบัญชีไปใช้ เราก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปดูแลให้หลังการติดตั้งระบบโดยไม่คิดมูลค่า นอกจากนี้  ยังมีการพัฒนาการตรวจสอบบัญชีด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ก็จะทำให้การตรวจสอบเร็วยิ่งขึ้น...” นายสิงห์ทองฯ กล่าว