กตส. จัดประชุมผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ครั้งที่ 6/2556
 
      เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556 นายวิจักร อากัปกริยา อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ครั้งที่ 6/2556 ผ่านระบบประชุม
ทางไกล (VDO Conference) โดยมีวาระสำคัญ อาทิ การปรับปรุง/แก้ไขระเบียบว่าด้วย
ผู้ตรวจสอบกิจการ ระบบงานกลุ่มพัฒนาการเรียนรู้/กลุ่มแผนงานและติดตามประเมินผล
ของ สตท. ตลอดจนติดตามงานที่ได้รับมอบหมายและเรื่องพิจารณาอื่นๆ โดยมีผู้บริหาร
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ ห้องประชุม 404 กรมตรวจ
บัญชีสหกรณ์
      ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายโอฬาร พิทักษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและ
 สหกรณ์ ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ การขับเคลื่อนนโยบาย Smart Farmer และ
Smart Officer เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ถึงแนวทางการปฏิบัติงานให้เป็นไปในทิศทาง
เดียวกัน โดยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศเรื่องการปฏิรูปการเกษตร
ในช่วงปี 2556-2561 เพื่อขับเคลื่อนการเกษตรไทยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล
โดยมีเรื่องสำคัญ อาทิ การบริหาร จัดการปรับปรุงมาตรฐานสินค้าทางการเกษตร ด่านสินค้า
เกษตรชายแดน เครื่องจักรกลการเกษตร และการสร้างเมืองสีเขียว หรือเมืองเกษตร เพื่อ
สร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของเมล็ดพันธุ์ รวมไปถึงเรื่องสำคัญ 3 มิติ ได้แก่ การ
บริหารจัดการพื้นที่การเกษตร การจัดการคน การสร้างและพัฒนา Smart Farmer และ
Smart Officer ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ ต้องได้รับการพัฒนาและขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้
เกษตรกรได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
      ทั้งนี้ นโยบาย Smart Farmer เป็นนโยบายที่มีขึ้น เพื่อพัฒนาเกษตรกรและ
สถาบันเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง หรือ Smart Farmer ที่มีความพร้อม
ทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ
การผลิต และเตรียมความพร้อมต้อนรับการค้าเสรีที่จะมาถึง เพื่อนำไปสู่การเพิ่มรายได้และ
การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมี Smart Officer หรือเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ
เป็นเพื่อนคู่คิด ให้คำปรึกษาแนะนำ โดยมีระบบฐานข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ระบุฐาน
ข้อมูลของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งข้อมูลโซนนิ่งสินค้าเกษตรทุกชนิดในจังหวัด และ
ตัวอย่างของ Smart Farmer เกษตรกรต้นแบบ ผู้ประสบความสำเร็จจากการประกอบอาชีพ
และการดำเนินชีวิต ซึ่งเกษตรกรสามารถสืบค้นและนำมาใช้เป็นแนวทางให้เกิดประโยชน์ได้
ต่อไป ซึ่งจากโครงการนี้ ตั้งเป้าหมายว่า จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า
180,000 บาท หรือเทียบเท่ากับเงินเดือนขั้นต่ำของผู้เรียนจบปริญญาตรี เพื่อช่วยยกระดับ
ชีวิตให้เกษตรกร และเป็นการจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจประกอบอาชีพในภาคการเกษตร
มากขึ้น