กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมเฉลิมพระเกียรติ
              สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
          เดินหน้าโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชน
          ในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ มุ่งบริหารจัดการกลุ่ม
  ให้มีความเข้มแข็ง สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้
 
       นายวิจักร อากัปกริยา อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้รับเชิญจากสำนักพระราชวัง ให้เข้าร่วมสนองงานตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ที่ทรงห่วงใยประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และพระราชทานความช่วยเหลือผ่านโครงการต่าง ๆในส่วนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ร่วมกับสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (สสท.) ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานโครงการตามพระราชดำริ ได้ดำเนินงานโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ทำหน้าที่อบรมสอนแนะนำการจัดทำบัญชีให้แก่กลุ่มอาชีพได้สามารถจัดทำบัญชีได้ และนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อให้ให้กลุ่มมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความรู้ ความสามารถที่จะสร้างความก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และส่งผลให้คนในครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

        ทั้งนี้ เน้นไปที่กลุ่มอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดารตามเป้าหมายของสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 130 กลุ่ม ในพื้นที่ 30 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด บุรีรัมย์ อุบลราชธานี มุกดาหาร ขอนแก่น สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ ตาก น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เชียงใหม่ พะเยา แม่ฮ่องสอน พังงา ระนอง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ยะลา ตรัง สงขลา ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกรุงเทพมหานคร
         ส่วนการดำเนินการได้มอบหมายให้สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ในพื้นที่ ตั้งกลุ่มอาชีพฯ ดำเนินการศึกษา หาข้อมูล และประสานงานกับกลุ่มอาชีพ เพื่อจัดทำแผนงานและโครงการ พร้อมคัดสรรคนในพื้นที่ เพื่อจ้างเหมาบริการให้ทำหน้าที่สอนแนะนำและติดตามผลการจัดทำบัญชีของกรรมการและสมาชิก ที่เข้ารับการพัฒนาศักยภาพด้านการเงิน การบัญชี และประชุมซักซ้อมเจ้าหน้าที่จ้างเหมาบริการวางรูปแบบบัญชีที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม และถ่ายทอดความรู้ ด้านการเงิน การบัญชี รวมทั้งติดตามความก้าวหน้า ด้านการเงิน การบัญชีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการดำเนินในปีงบประมาณ 2556 นี้จะยังผลให้กรรมการและสมาชิกกลุ่มอาชีพฯ มีความรู้ ความเข้าใจในการจัดทำบัญชี สามารถนำข้อมูลบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการได้ มีข้อมูลการจดบันทึกบัญชีอย่างเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้.