SUPER COOP SUPER BRAND เฟ้นหานวัตกรรมสร้างสรรค์
ปั้นแบรนด์ไทยสไตล์สหกรณ์ ใน เกมสหกรณ์ 2
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดมุมมองใหม่ เฟ้นหานวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์
ปั้นแบรนด์ไทยสไตล์สหกรณ์ โดยนำสหกรณ์ไทยที่มีวินัยทางการเงิน
ร่วมสมรภูมินักสร้างแบรนด์ SUPER COOP SUPER BRAND ในการแข่งขัน
เกมสหกรณ์ครั้งที่ 2 เตรียมชูต้นแบบแบรนด์เด่น ให้เข้าถึงใจลูกค้า เข้าหา
มูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงระบบตลาด รับสมัคร 1 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม นี้
ล่าสุด ได้จัดให้มีการแถลงข่าวเปิดตัวโปรเจ็คใหญ่ SUPER COOP SUPER
BRAND ขึ้นที่ สตูดิโอกันตนา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม
2553 โดยมี นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แถลงข่าว
ร่วมกับ รศ.ดร. วิจารณ์ วิชชุกิจ คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตร-
ศาสตร์ นายมงคลัตภ์ พุกะนัดด์ ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาต
สหกรณ์แห่งประเทศไทย นายไกรสิทธิ์ โรจน์เกษตรชัย รักษาการผู้จัดการ
ใหญ่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด นางศศิกร ฉันท์เศรษฐ์
กรรมการผู้จัดการบริษัทฟาร์ม แชลแนล (ประเทศไทย) จำกัด และ
นางนิ่มอนงค์ เย็นสบาย ผู้อำนวยการฝ่ายขายและบริการลูกค้า บริษัท
อ.ส.ม.ท. จำกัด เกี่ยวกับความร่วมมือจัดกิจกรรมการแข่งขันเรียลลิตี้ เกมสหกรณ์
ปี 2 พร้อมแนวคิด SUPER COOP SUPER BRAND คิดดี มีแบรนด์ ขายได้
ขยายตลาดให้ชุมชน ที่เน้นการสร้างแบรนด์ เพื่อเป็นเครื่องมือหลักในการ
สร้างสรรค์และรักษาความได้เปรียบทางการตลาด และความผูกพันในสินค้าและ
บริการของภาคสหกรณ์ต่อผู้บริโภค
หลังจากประสบความสำเร็จในการนำสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ แข่งขัน
เกมสหกรณ์ในครั้งที่แล้ว จนได้สหกรณ์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบของการ
พัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิก และพัฒนาความเป็นอยู่
ของชุมชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนไปแล้วนั้น สำหรับครั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างตระหนัก
ว่าการแข่งขันในสภาวการณ์ปัจจุบัน การมุ่งผลิตสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว
อาจไม่ตอบสนองความเชื่อถือของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อขอบเขตของตลาดที่
ทำได้ในวงจำกัด โดยเฉพาะสินค้าในภาคเกษตรที่ผลิตในกลุ่มสหกรณ์ ดังนั้น
นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์โดยภาคสหกรณ์การเกษตรควรได้รับการแพร่
กระจาย ให้เข้าถึงใจลูกค้าโดยใช้การตลาดนำการผลิต ขยายตลาดให้กว้าง
ขวางขึ้น โดยผลักดันให้สหกรณ์มี แบรนด์ หรือตราสินค้า เป็นของตนเอง
การแข่งขันเกมสหกรณ์ในครั้งที่ 2 นี้ จึงมุ่งผลักดันและต่อยอดนวัตกรรม
อันสร้างสรรค์โดดเด่นในภาคสหกรณ์การเกษตร ให้เป็นที่รู้จักและจดจำของ
ผู้บริโภค และเข้าถึงองค์กรชุมชนต่าง ๆ ได้ง่าย ทั้งยังสร้างความมั่นใจใน
คุณภาพและความคุ้มค่าของสินค้าและบริการภาคสหกรณ์ต่อผู้บริโภค อันจะนำ
มาซึ่งการเพิ่มผลิตภาพ มูลค่า ยอดขาย และช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งนั่น
หมายถึงกำไรและความมั่นคงในธุรกิจของสหกรณ์ที่มีวินัยทางการเงิน เพื่อท้าย
ที่สุดสหกรณ์และสมาชิกจะสามารถพึ่งพาตนเอง ดูแลกันเองในเครือข่าย และ
พึ่งพาภาครัฐน้อยลง นอกจากนี้การสร้างแบรนด์ของสหกรณ์ในครั้งนี้ยังจะ
สามารถผลักดันให้ภาคสหกรณ์ สามารถเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงระบบ
ตลาดของสินค้าภาคเกษตรของไทยได้ในระยะยาวด้วย
สำหรับรูปแบบรายการเป็นเรียลิตี้โชว์ ผู้เข้าร่วมรายการคือสหกรณ์การ
เกษตรทั่วประเทศ ที่นำเสนอโครงการนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ประกอบไปด้วย
รูปแบบการผลิต แนวทางในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ รวมถึงชูให้เห็นถึงการ
สร้างประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิก และการพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชน โดย
แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสินค้าที่สำคัญทางเศรษฐกิจการเกษตร ทั้งทางด้านอาหาร
พืชพลังงาน ผลิตภัณฑ์ ภูมิปัญญา ตลอดจนปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
รวม 10 หมวด ได้แก่ ข้าว, พืชผักผลไม้, ชากาแฟ, โคเนื้อโคนม, พืชพลังงาน
เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ปาล์มน้ำมัน, สมุนไพรไทย, ผ้าไหมผ้าฝ้าย,
หัตถกรรมจักสาน, ปุ๋ย และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการเกษตร การตลาด นักวิชาการ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นกรรมการคัดกรอง
ให้เหลือ 100 นวัตกรรม หรือ 100 สหกรณ์ เพื่อเข้าสู่สมรภูมินักผลิต โดยในรอบนี้
ทั้ง100 สหกรณ์ต้องนำเสนอผลงานจริง เพื่อคณะกรรมการคัดเลือกให้เหลือ 10
สหกรณ์ หรือ 10 ยอดผลงานให้เข้าสู่รอบต่อไปคือ สมรภูมิการสร้าง Brand
ซึ่งจะมีนักการตลาดเข้าร่วมในการพัฒนางานเป็นเวลา 10 สัปดาห์ จนกระทั่ง
สำเร็จเป็นแบรนด์ ของทั้ง 10 ผลงาน
จากนั้นจะได้มีโอกาสนำแบรนด์เหล่านี้ไปจัดแสดงในงานคนไทยหัวใจ
เกษตร ระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคม 2553 ณ กันตนามูฟวี่ทาวน์ ศาลายา นครปฐม
ซึ่งผู้ชมทางบ้านที่จัดว่าเป็นลูกค้าที่สำคัญของสหกรณ์ จะได้สัมผัสถึงการ
สร้างสรรค์นวัตกรรม และการออกแบบแบรนด์ ผ่านรายการคนไทยหัวใจเกษตร
ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี และสถานีโทรทัศน์ Farm Channel ซึ่งจะเริ่มออกอากาศ
1 กันยายน 2553 เป็นต้นไป เพื่อประกอบการตัดสินใจโหวตให้คะแนนว่าสหกรณ์
ใดควรเป็นที่หนึ่งในแบรนด์ไทยภาคสหกรณ์ ชิงเงินรางวัลหนึ่งแสนบาท และรถ
แทรกเตอร์มิตซูบิชิ 1 คัน พร้อมโอกาสในการสร้างธุรกิจ และของรางวัลอื่นๆ
อีกมากมาย
ทั้งนี้ สหกรณ์ใดสนใจ สามารถสมัครพร้อมเสนอรายละเอียดโครงการได้ที่
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถ.กรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ
ตั้งแต่ 1 กันยายน - 4 ตุลาคม 2553