กรมตรวจฯ ร่วมกับ ซี.ซี.เอฟ ร่วมพัฒนาระบบควบคุมภายใน ดันชุมชนเข้มแข็ง
 
       เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2553 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ร่วมกับมูลนิธิฯ
ซี.ซี.เอฟ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการความร่วมมือพัฒนา
ระบบควบคุมภายใน และระบบบริหารจัดการทางการเงินการบัญชี
ของกลุ่มอาชีพ วิสาหกิจชุมชนในจังหวัดเลย เป็นแห่งแรกจาก
18 จังหวัดในพื้นที่โครงการ เชื่อมั่น กลไกการบัญชี ช่วยสร้างความมั่นคง
ทางเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัว ซี.ซี.เอฟ
ผลักดันชุมชนเข้มแข็ง
       นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยถึง
ความคืบหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และ
มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ ในประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพัฒนาระบบ
ควบคุมภายใน  และระบบบริหารจัดการทางการเงินการบัญชี ภายใต้
แผนงานของโครงการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่  ว่าขณะนี้ทั้งสองหน่วยงาน
ได้ร่วมบูรณาการอย่างต่อเนื่องมุ่งสร้างสรรค์ความเข้มแข็งและมั่นคง
ทางเศรษฐกิจให้กับครอบครัวของ ซี.ซี.เอฟ ที่มีการรวมกลุ่มและจัดการ
ธุรกิจกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพ หรือวิสาหกิจชุมชน ภายใต้แผนงาน
โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ และกองทุน ซี.ซี.เอฟ เพื่อพัฒนาเด็ก
(CFO) ให้มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ ที่เหมาะสม
มีระบบบริหารจัดการธุรกิจและการเงินการบัญชีที่เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพ
ทั้งโดยการสอนแนะและการอบรม
       โดยการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการ ณ พื้นที่ปฏิบัติงาน
มูลนิธิฯ ตำบลท่าลี้ จังหวัดเลยในครั้งนี้ เป็นแห่งแรก โดยมี ดร.กรรณชฎา
พิริยะรังสรรค์  ผู้อำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ.ฯ
ร่วมในการตรวจเยี่ยมโครงการ  ทั้งนี้ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานใน
ก้าวแรกให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
โครงการในก้าวต่อ ๆ ไป โดยมุ่งหวังให้ท้ายที่สุดชุมชนจะมีศักยภาพ
ความพร้อมในการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยกลไกการบัญชี และ
มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนได้ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่แปรเปลี่ยน
 สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลบุตรหลานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       สำหรับโครงการความร่วมพัฒนาระบบควบคุมภายในและระบบ
บริหารจัดการทางการเงินการบัญชี เป็นโครงการที่กรมฯ และ
ซี.ซี.เอฟ ได้ลงนามความร่วมมือไปเมื่อเดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการสนองงานตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน
ในถิ่นทุรกันดาร ที่ประสบปัญหาความยากจน โดยมีพระราชประสงค์
ให้ประชาชนรวมกันเป็นกลุ่มอาชีพ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างรายได้
ให้กับครอบครัว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยถึงปัจจุบันโครงการ
ได้ประสานความร่วมมือใน 5 ฝ่าย ทั้งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ โรงเรียน ชุมชน และองค์กรท้องถิ่น มีพื้นที่ดำเนินการ
ครอบคลุม 18 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ สุรินทร์ มุกดาหาร ยโสธร ศรีสะเกษ
อำนาจเจริญ อุบลราชธานี  ขอนแก่น นครพนม เลย สกลนคร หนองคาย
หนองบัวลำภู อุดรธานี ตาก น่าน เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ ซึ่งจะมีครอบครัว
ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า 1 หมื่นครอบครัว
 
       " กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ร่วมมือกับ ซี.ซี.เอฟ เพื่อเข้ามา
พัฒนาชุมชน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ คือการสร้างวินัยทางการเงิน
ให้กับเด็กและชุมชน  ซึ่งบัญชีจะเป็นหัวใจสำคัญที่สามารถลดต้นทุน
ในการประกอบอาชีพได้ นอกจากนี้กรมฯ ยังหวังที่จะสร้าง "เด็กเล็ก"
ให้เป็นคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาชุมชน ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ ท่านก็มีรับสั่ง
ให้ดูแลตั้งแต่เรื่องของวิธีคิด  เรื่องของความเป็นอยู่ และการเรียนการสอน
โดยจะเน้นในเรื่องวิถีชีวิตด้านการเกษตร ซึ่งจะเป็นตัวเชื่อมโยงไปสู่
ครอบครัวได้ และในปีนี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขับเคลื่อน
สู่ความเข้มแข็งให้กับชุมชน เราจึงจัดให้มีการประกวดแข่งขัน
ชุมชนที่ อยู่ในพื้นที่ความดูแลของซี.ซี.เอฟด้วยนายอนันต์  กล่าว.