อตส.ชี้แจงกรณีการทุจริตในสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน
  จำกัด จ.นครสวรรค์
 
        เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2555 นายวิจักร อากัปกริยา อธิบกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ถึงกรณีปัญหาข้อร้องเรียนของ
สหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จำกัด จังหวัดนครสวรรค์ ว่า ปัญหาเกิดจากการทุจริต
ภายในของสหกรณ์ โดยกรรมการสหกรณ์บางคน ร่วมมือกับผู้จัดการฯ หลอกให้
สมาชิกนำผลผลิตทางการเกษตร (มันสำปะหลัง) มาขายให้กับสหกรณ์ ต่อจากนั้น
สหกรณ์ก็นำผลผลิตไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง แต่เมื่อได้เงินมาแล้วกลับไม่ยอมโอน
ให้กับสมาชิก แต่ยักยอกนำเงินที่ได้จากการขายผลผลิต โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของ
ผู้จัดการสหกรณ์ ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นจำนวนเงินถึง 59 ล้านบาท ทั้งนี้ การ
ดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ ขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้สหกรณ์ขาดเงินทุน
หมุนเวียน ไม่มีเงินจ่ายให้กับสมาชิกที่มาขายผลิตผล และสมาชิกที่มาขอถอนเงิน
รับฝาก โดยสหกรณ์ตกค้างการตรวจสอบมาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว เนื่องจากเอกสาร
ได้สูญหายไป การบันทึกบัญชีก็ไม่เป็นปัจจุบัน จึงทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังตลอดมา
อีกทั้ง มีการล้างข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ออก และนำเอกสารสำคัญของทาง
ราชการออกไปจากสำนักงานสหกรณ์ฯ อีกด้วย ทำให้ยากต่อการสืบค้นข้อมูลและ
ข้อมูลที่หายไปก็ไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ช่วยกันแก้ไขปัญหาและจับตัวผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่ปัญหาจะขยาย
วงกว้างมากกว่านี้ ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้ระงับการ
ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตและแปรรูป และได้จัดให้มีประชุมใหญ่ เพื่อจัดทำแผน
ฟื้นฟูการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ดังกล่าวต่อไป
       อธิบกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีหน้าที่เปรียบ
เสมือนห้องแล็ป ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ไม่มีอำนาจเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้ เพียงแต่
มีหน้าที่คอยตรวจสอบบัญชี รายรับ-รายจ่าย และความเคลื่อนไหวของสหกรณ์นั้นๆ
เนื่องจากสหกรณ์เป็นนิติบุคคล มีความเป็นอิสระ ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
 จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ ที่ต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาทาง
ด้านการเงิน การบัญชี และการบริหารธุรกิจของสหกรณ์ นอกจากนี้ ยังพบว่า
บางสหกรณ์ใช้โปรแกรมของเอกชน การสืบค้นข้อมูลจึงทำได้ยาก เช่นเดียวกับกรณี
สหกรณ์การเกษตรแม่เปินฯ ก็ได้ว่าจ้างเอกชนให้มาลงโปรแกรมให้ จึงทำให้เกิด
ช่องโหว่ในการทุจริต โดยที่ผ่านมา กรมฯ ก็ได้พยายามพัฒนา ปรับปรุงโปรแกรมฯ
ให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยในปีนี้ มีโครงการที่บูรณาการร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ซึ่งได้ทำการหารือไปบางส่วนแล้ว โดยทางกระทรวงฯ
จะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยศึกษาวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และพัฒนาต่อยอดโปรแกรมของ
กรมฯ ให้มีความสมบูรณ์ ทันสมัย และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้
กรมฯ จะขับเคลื่อนการทำงานตามกฎหมายและตามที่กฎกระทรวงกำหนดในการสร้าง
ความโปร่งใสให้สถาบันเกษตรกร ซึ่งประกอบด้วย สหกรณ์ 7 ประเภท ซึ่งกรมฯ มีหน้าที่
ในการตรวจสอบบัญชี ส่งเสริมและพัฒนาการใช้โปรแกรมต่างๆ ให้แก่สหกรณ์ รวมทั้ง
พัฒนาศักยภาพของบุคลากรในสหกรณ์ ให้สามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินงาน
นอกจากนี้ ยังให้ความรู้ทางบัญชีแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ได้มีภูมิปัญญาทาง
บัญชี สามารถทำบัญชีรับ-จ่าย ในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ และนำไปใช้วางแผน
ในการประกอบอาชีพของตนเองได้ ซึ่งจะช่วยช่วยลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้
และเพิ่มเงินออม นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี.