เกษตรเดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกร สร้างโอกาส
ความเท่าเทียม ทั้งรายได้  เงินออม  และความผาสุกแก่เกษตรกร
ด้วยกลไกการบัญชี
 
 
กษ.  เร่งเครื่องเชื่อมโยงกลไกการบัญชี  พลิกฟื้นธุรกิจสถาบันเกษตรกร
ยก สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านบางทอง จำกัด จังหวัดพังงา หนึ่งในสหกรณ์
นำร่องที่เข้าถึงโอกาสความเท่าเทียม  สร้างรายได้  เงินออม  แก่เกษตรกรสมาชิก 
จากเม็ดเงินลงทุนกว่า 5.78 ล้านบาท   แนะ  สมาชิกยึดหลักพึ่งพาตนเอง
สร้างวินัยทางการเงินต่อเนื่อง
                       
      นายศุภชัย  โพธิ์สุ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
เผยว่า  นโยบายต่าง ๆ ของรัฐ  ในปัจจุบันจะเห็นว่ามุ่งที่จะช่วยเหลือประชาชน
ในทุกภาคส่วนให้เกิดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ  ทั้งยังมุ่งสร้างโอกาส 
ความเท่าเทียมกันในสังคม  ทั้งรายได้  เงินออม  และคุณภาพชีวิต  หากมอง
ในภาคเกษตรและสหกรณ์  สถาบันเกษตรกรจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนา
ที่สำคัญที่จะนำโอกาสเหล่านี้สู่เกษตรกร   ฉะนั้น  ธุรกิจสถาบันเกษตรกร
จึงต้องมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง  และให้ความสำคัญกับกลไกการบัญชี 
เพื่อยืนอยู่บนฐานความมั่นคงทางการเงิน
      ที่ผ่านมาได้มอบให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  เดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจ
สถาบันเกษตรกรด้วยกลไกการบัญชี  โดยให้ความสำคัญกับเกษตรกรแต่ละราย
ที่จะไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ  สามารถรวมกลุ่มพึ่งพากัน
ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง   โดยมีสถาบันเกษตรกรเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน 
อย่างไรก็ตาม  ตัวสมาชิกเองก็ควรมีวินัยทางการเงิน  เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในชีวิต
ของตนเอง
      
 
 
 
 
 
 
 
 
 
      ด้านนายอนันต์ ภู่สิทธิกุล  อธิบดีกรมตรวจ
บัญชีสหกรณ์  
กล่าวว่า  ในปี 2552-2553  กรมฯ 
มุ่งพลิกฟื้นธุรกิจสหกรณ์ภาคการเกษตร  กว่า 1,500 
แห่งทั่วประเทศ  โดยนำร่องใน  7  มิติของการ
ปรับเปลี่ยน 
เพื่อที่จะนำพาธุรกิจสหกรณ์ให้เข้าถึง 
4  โอกาส 
ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้  เพื่อการลดต้นทุน
และเพิ่มรายได้ 
โอกาสเข้าถึงการรวมกลุ่ม  โอกาส
เข้าถึงทุนดำเนินการ 
กระทั่งโอกาสเข้าถึงระบบตลาด
ด้วยกลไกการบัญชี 
ซึ่งต้องจับตาเฝ้าดูความเคลื่อนไหว
ภาวะเศรษฐกิจการเงิน
ของสหกรณ์ที่เข้าถึงโอกาสเหล่านี้  
อาทิ  สหกรณ์กองทุน
สวนยางบ้านบางทอง  จำกัด  
จังหวัดพังงา  ซึ่งได้รับ
รางวัลชมเชยสหกรณ์คุณธรรม
ประจำปี 2552  สหกรณ์นี้
ได้เดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจในทุกมิติ 
บนพื้นฐานทุนดำเนินงาน
กว่า 5 ล้านบาท  ปริมาณธุรกิจ
กว่า  47  ล้านบาท  ซึ่งเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับ
ปี  2550 โดยส่วนใหญ่เน้น
การรวบรวมผลิตผลและ
แปรรูปถึงกว่า 45  ล้านบาท 
ผลการดำเนินงานล่าสุด
กำไรเพิ่มขึ้นจากปี  2550 
ประมาณร้อยละ 20 สมาชิก
มีเงินออมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
 ร้อยละ 53 ต่อคน จากเดิม
กว่า 9,900 บาท  ในปี 2550 
เป็นกว่า 15,100  บาท 
ในปี 2552  
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กล่าวอีกว่า 
ยังมีสหกรณ์อีกหลายแห่งในโครงการ  ที่เชื่อมโยงกลไก
การบัญชีเพื่อสร้างสรรค์ชุมชน  และ ณ วันนี้หากสถาบัน
เกษตรกรทั่วประเทศได้เดินหน้าบนพื้นฐานของการให้ 
การแบ่งปัน  และการสร้างสรรค์  เชื่อว่าจะนำมาซึ่ง
ความเท่าเทียมด้านรายได้  เงินออม  และสร้างความผาสุก
แก่สมาชิกและชุมชน