อตส.เปิดการประชุมสัมมนา "สหกรณ์กับความเสี่ยงในสถานการณ์ปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 นายจักรี สุจริตธรรม อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธาน
เปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง "สหกรณ์กับความเสี่ยงในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีประธานกรรมการ
ผู้จัดการ และผู้แทนจากภาคสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบนโยบายเกี่ยวกับการตรวจสอบ
บัญชีสหกรณ์ภาคเอกชนปี 2555 แนวทางการบริหารจัดการเงินทุนของสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจกับสหกรณ์ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชีสหกรณ์ ตลอดจนร่วม
อภิปรายแสดงความคิดเห็นการพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชีภาคเอกชน และการคิดค่าธรรมเนียม
การสอบบัญชี รวมถึงเกณฑ์การหมุนเวียนการสอบบัญชีจากผู้สอบบัญชีภาคเอกชนเป็นผู้สอบบัญชี
ภาครัฐ ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร
ในโอกาสนี้ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้แนะแนวทางในการดำเนินงานสหกรณ์ให้เป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่สหกรณ์ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ
โดยกล่าวว่า ในสภาวะปัจจุบันที่ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มถดถอย ส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน
โดยรวม ทำให้เงินทุนบางส่วนเคลื่อนย้ายเข้ามาสู่ระบบสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สหกรณ์มี
การเติบโตและพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะการนำเงินไปลงทุน
ภายนอกที่มีผลตอบแทนสูง ซึ่งการลงทุนใด ๆ ที่ได้รับผลตอบแทนสูงก็ย่อมมีความเสี่ยงสูงด้วย
จึงอาจกระทบต่อการบริหารงานของสหกรณ์ที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้
พบว่า ยังมีสหกรณ์จำนวนมากที่มีความต้องการด้านสินเชื่อเพื่อตอบสนอง หรืออำนวยความสะดวก
ให้กับสมาชิก ในขณะที่ยังมีสหกรณ์จำนวนไม่น้อยที่มีสภาพคล่องทางการเงินล้นระบบยังขาด
หน่วยงานหรือตลาดสินเชื่อไว้คอยสนับสนุนธุรกรรมเพื่อสหกรณ์โดยตรง โดยปัจจุบันได้มีเครื่องมือ
บริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
พัฒนาขึ้น เรียกว่า ตลาดสินเชื่อกลางระหว่างสหกรณ์ (CO-OP REPO Market) ซึ่งเป็น "การตลาด
อิเล็กทรอนิกส์ ด้านธุรกิจการเงินระหว่างสหกรณ์ผ่านเครือข่าย Internet ที่สามารถสร้างโอกาส
ในการเชื่อมโยงการเข้าถึงตลาดการเงินระหว่างสหกรณ์เชิงพึ่งพาบนพื้นฐานการมีคุณภาพทางการเงิน
จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยประสานเชื่อมโยง และอำนวยความสะดวกให้กับสหกรณ์ได้
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวต่อว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล
สหกรณ์และควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีสหกรณ์ ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาสหกรณ์
และผู้ปฏิบัติงานสอบบัญชีสหกรณ์ ให้มีองค์ความรู้ทัดเทียมกัน แต่สหกรณ์ส่วนใหญ่มักจะเห็นความ
สำคัญของการตรวจสอบบัญชีก็ต่อเมื่อพบว่า มีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น และมักจะเลือกผู้สอบบัญชี
รายที่เสนอค่าธรรมเนียมการสอบบัญชีต่ำกว่ารายอื่น จึงพบว่าอัตราค่าธรรมเนียมการสอบบัญชีของ
สหกรณ์แต่ละแห่งมีแนวโน้มลดลง โดยที่ปริมาณธุรกิจของสหกรณ์นั้นผกผันไปในทางตรงกันข้ามคือ
ปริมาณธุรกิจมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น กรณีดังกล่าวส่งผลต่อคุณภาพงานสอบบัญชีสหกรณ์ เนื่องจาก
ผู้ปฏิบัติงานสอบบัญชีสหกรณ์ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ ซึ่งเป็น
ผู้สอบบัญชีที่มีคุณภาพไม่สามารถอยู่ในระบบงานของสหกรณ์ได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องฝากให้
แต่ละสหกรณ์นำไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ไขและพัฒนางานให้ดีขึ้นต่อไปด้วย