3  พันธมิตร จับมือ สร้างตำรานอกชั้นเรียน  เปิดโอกาสนิสิตเกษตร
ดูงานสหกรณ์  หวังปูทางผู้ประกอบการด้านการเกษตรตัวจริง

 

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  ร่วมกับ  คณะเกษตร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
และสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ร่วมสร้างโอกาสให้นิสิตเกษตร 
จากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กว่า 50 คน เข้าศึกษาดูงานสหกรณ์การเกษตร
42 แห่งทั่วประเทศ  หวังหล่อหลอมและซึมซับแนวคิดให้เป็นประสบการณ์สู่
ผู้ประกอบการด้านการเกษตรในอนาคต

 

       นายอนันต์  ภู่สิทธิกุล  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  เปิดเผยว่า  นิสิตนักศึกษา
ถือว่าเป็นอนาคตที่สำคัญของชาติ  โดยเฉพาะนิสิตเกษตร  จากรั้วมหาวิทยาลัยที่พร้อมจะเข้าสู่
ตลาดแรงงาน  หรือผู้ประกอบการตัวจริงในวันข้างหน้า  และการที่จะทำให้พวกเขามีอนาคตที่ดี 
และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของไทยต่อไปนั้น  การศึกษาหาความรู้
ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว  อาจไม่เพียงพอเท่ากับการได้มีโอกาสได้เรียนรู้  ดูงาน  และลงมือ
ปฏิบัติจริงจากตำรานอกชั้นเรียน
       กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  และคณะเกษตร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  รวมถึงสมาคมศิษย์เก่า
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว  จึงพร้อมใจกันที่จะร่วมบูรณาการ
เพื่อเติมเต็มความรู้พิเศษด้านการเกษตรและสหกรณ์  ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อคุณลักษณะของ
ความเป็นบัณฑิต แก่นิสิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  โดยได้จัดให้มี “โครงการพัฒนา
นิสิตเกษตรสู่อนาคตการเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร”
       โครงการดังกล่าว  เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้านการเกษตรในระบบสหกรณ์ 
ไม่ว่าจะเป็น  การจัดการธุรกิจ  ระบบฐานข้อมูลทางการเงินของสหกรณ์  กระทั่งองค์ความรู้ทางบัญชี
ที่จะช่วยสร้างวินัยทางการเงิน  โดยมีเป้าหมายที่จะนำนิสิตจากคณะเกษตร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
ระดับปริญญาตรี  ปีที่ 3 และ 4 ที่สมัครในโครงการ กว่า 50 คน  เข้าศึกษาดูงานที่สหกรณ์การเกษตร
42 แห่งทั่วประเทศ  รวมทั้งเครือข่ายธุรกิจองค์กรชุมชน  เป็นระยะเวลา  10 วัน  ระหว่างวันที่ 
14  พฤษภาคม  2553  ถึงวันที่  23  พฤษภาคม  2553
      อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กล่าวทิ้งท้ายว่า  “การเรียนการสอนนอกห้องเรียนนั้น 
เป็นสิ่งจำเป็นที่นิสิต  นักศึกษาในปัจจุบันควรมีโอกาสได้รับ  โดยเฉพาะด้านการเกษตรและสหกรณ์ 
เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้ พร้อม ๆ กับขณะที่ยังศึกษาอยู่ในสถาบัน  โดยไม่ต้องรอให้จบการศึกษา
เสียก่อน  ทั้งนี้  ก็เพื่อหล่อหลอมและซึมซับแนวคิดให้เป็นประสบการณ์ที่จะติดตัวนิสิตต่อไป 
กระทั่งก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร  และสายงานสหกรณ์ในอนาคต”