นวัตกรรมทางการเงินการบัญชี-เทคโนฯเกษตรไทย
ในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าร่วมพัฒนาภาคเกษตรไทยในยุค
เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านนวัตกรรมการเงินการบัญชี ในงานสัมมนาวิชาการ
เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเกษตร ครั้งที่ 3 จัดโดย มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ และสวทช. วันที่ 11-12 พฤษภาคม 2553 ณ อาคารสารนิเทศ
50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานคร นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า
นับเป็นเวลากว่า 58 ปี แล้วที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ภายใต้การกำกับของ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานสำคัญ
ในการตรวจสอบกำกับดูแลทางการเงินการบัญชีให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
ให้มีความเข้มแข็ง และก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องมาโดยลำดับเท่านั้น หากแต่
ยังมุ่งสนับสนุน ส่งเสริม และบูรณาการให้ภาคเกษตรของไทยโดยรวม
มีความยั่งยืน เกษตรกรไทยเข้มแข็ง สามารถดำเนินชีวิตตามปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยตระหนักดีว่าภาคเกษตรกรรม
ของไทยคือหัวใจสำคัญของชาติ ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ภาคเกษตรกรรมของไทยจำเป็นต้องได้รับ
การใส่ใจดูแลและพัฒนาให้ก้าวทันเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรับมือกับ
ภาวการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาในด้านสารสนเทศ
ทางการเกษตร ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเกษตร เพื่อเป็น
คลังความรู้ทางด้านการเกษตรแก่เกษตรกรและเครือข่าย รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ
ของสังคมด้วย และนับเป็นโอกาสอันดีที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ สวทช.
ได้ร่วมจัดงานสัมมนาวิชาการ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเกษตร
ครั้งที่ 3 ไอทีเกษตรในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ระหว่างวันที่ 11-12
พฤษภาคม 2553 ณ อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
บางเขน กรุงเทพมหานคร โดยในการนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้นำนวัตกรรมทางการเงินการบัญชี
เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเกษตรในมิติของ
ภาคสหกรณ์ไทย สามารถช่วยในการคิดวิเคราะห์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ
โดยผ่านกระบวนการทางมาตรฐานบัญชี และเครื่องมือตรวจสอบทางการเงิน ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์
ครบวงจร โปรแกรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ 6 มิติ
เครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงิน รวมไปถึงเครื่องมือตรวจสอบ
มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ ภาคสหกรณ์ของไทยสามารถวางแผนทางการเงินล่วงหน้า และลดความเสี่ยง
ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังเอื้อประโยชน์ต่อความเข้มแข็งของภาคเกษตรกรรม
ของไทยโดยรวมด้วย
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการสัมมนา
ในช่วง 2 วันดังกล่าว นอกจากจะมีการบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ ด้านความก้าวหน้า
และแนวโน้มในการพัฒนาสารสนเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการเกษตร
ของไทยแล้ว ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการด้านต่าง ๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์
ต่อภาคเกษตรไทย อาทิ คลังความรู้ด้านการเกษตร ห้องสมุดดิจิทัลเกษตรไทย
เครือข่ายสารสนเทศเกษตรไทย เป็นต้น โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะได้ร่วม
เวทีอภิปราย เรื่อง การเกษตรไทยในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในช่วงบ่ายของ
วันแรกของการสัมมนา คือ วันที่ 11 พฤษภาคม 2553 เวลา 15.00-16.30 น.
โดยประมาณ
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เชื่อมั่นว่า จากการร่วมเวทีการสัมมนาครั้งนี้
จะเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญในการสร้างความรู้ ความเข้าใจในแนวทางและ
วิธีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาสารสนเทศด้านการเกษตร ทั้งยัง
ประโยชน์แก่ผู้ให้และผู้รับในเวทีเสวนาให้เกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือในการ
พัฒนาสารสนเทศด้านการเกษตรของประเทศไทยต่อไป นายอนันต์ฯ กล่าว
|