จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการ
ทำบัญชี ซึ่งไม่เพียงเป็นเครื่องมือวัดความสำเร็จทางธุรกิจและแสดงสถานะทางการเงิน แต่ยัง
เป็นพื้นฐานสำคัญของการดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงมีความมุ่งมั่น
และตั้งใจเรื่อยมา ที่จะส่งเสริมให้เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้
ความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของการทำบัญชี ควบคู่กับการพัฒนาสหกรณ์ไทยให้มีระบบ
การบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีที่โปร่งใสและเข้มแข็ง
ในวันที่ 12 มีนาคม 2555 นี้ นับเป็นวันสำคัญที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะครบรอบการ
สถาปนา ปีที่ 60 หากเปรียบเทียบกับช่วงอายุของคนแล้ว ในมุมหนึ่งอาจมองว่าเป็นวัยที่เริ่ม
โรยราและถึงเวลาแก่การพักผ่อน แต่ในทางกลับกัน วัย 60 ปี ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ยังเป็นวัยที่สดใสและมีไฟมุ่งมั่นในการพัฒนางานให้ดีขึ้นเรื่อยไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยนำ
ความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในงานที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมเป็นแรงผลักดันที่จะ
เดินหน้าตามภารกิจในการตรวจสอบบัญชี วางระบบบัญชี และให้คำปรึกษาแนะนำการบริหาร
จัดการด้านการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร โดยในปี 2555 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มุ่งเดินหน้า 5 งานหลัก ดังนี้
1.) งานเสริมสร้างภูมิปัญญาทางบัญชี ซึ่งเป็นงานสำคัญที่กรมฯ ดำเนินการมาอย่าง
ต่อเนื่อง สนองตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เพื่อเสริมสร้างภูมิปัญญาทางบัญชีให้แก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อให้มี
ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการทำบัญชี โดย ชูโครงการเด่น "จูงมือน้องน้อยบนดอยสูง และ
"ครูบัญชีวัยใสที่ชายแดน เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ได้รู้จักการทำบัญชี
สามารถคิดคำนวณ รู้รายรับ-รายจ่าย และดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็น
พื้นฐานสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ
2.) พัฒนางานสอบบัญชี ใช้ IT เต็มรูปแบบ โดยผลักดันให้สหกรณ์นำโปรแกรมระบบ
บัญชีสหกรณ์ครบวงจร ที่กรมตรวจฯพัฒนาขึ้น ไปใช้ในการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชี
ซึ่งจะช่วยให้สหกรณ์บริหารจัดการได้อย่างครบวงจร สามารถจัดทำงบการเงินตามรูปแบบที่
นายทะเบียนสหกรณ์กำหนด ออกรายงานผลการวิเคราะห์งบการเงิน และรายงานเตือนภัยได้
อัตโนมัติ สามารถปิดบัญชีได้เร็ว สมาชิกก็จะได้รับเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนเร็ว
3.) เน้นการใช้ประโยชน์บัญชีในสหกรณ์ทุกระดับ โดยมุ่งเน้นการให้คำแนะนำการ
บริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีกับโครงสร้างธุรกิจของสหกรณ์ ตลอดจนการเตือนภัยทาง
การเงิน และให้สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกแห่งเป็น"คลินิกกรมตรวจบัญชีสหกรณ์สำหรับ
ดูแลและเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินการบัญชี
4.) พัฒนาผู้ตรวจสอบกิจการและครูบัญชีอาสา โดยมุ่งส่งเสริมศักยภาพผู้ตรวจสอบ
กิจการ ในด้านต่างๆ รวมถึงขีดความสามารถในการเตือนภัยและให้คำแนะนำแก้ปัญหาแก่
สหกรณ์ได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนพัฒนาครูบัญชีอาสาให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ครอบคลุมทุกพื้นที่
เพื่อเป็นแรงสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ทางบัญชีให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง
5.) จัดตั้งมูลนิธิ "60 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนและเผยแพร่ภูมิปัญญา
ทางบัญชีและพัฒนาส่งเสริมงานด้านบัญชี อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายเครือข่ายอันเป็นประโยชน์
ต่อสหกรณ์ นอกจากนี้ ยังได้ก่อตั้งสถาบันพัฒนานักบริหารงานบัญชีสหกรณ์แห่งชาติ หรือ
"นิคแคท (NICADD) ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันจัดตั้ง ให้เป็นสถาบันฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัติการ
และเสริมสร้างประสบการณ์เชิงรุกให้แก่บุคลากรในขบวนการสหกรณ์ ให้เป็นนักบริหารงาน
บัญชีสหกรณ์ เพื่อการขับเคลื่อนพัฒนาสหกรณ์ในประเทศไทยไปสู่ระดับอาเซียน |