ตรวจบัญชีสหกรณ์ หารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก DGRV ผลิตมาตรฐานผู้ตรวจสอบกิจการรองรับการพัฒนาสหกรณ์ไทย

      เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2553 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นำโดย
นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหาร
และข้าราชการผู้เกี่ยวข้องตามโครงการ “สมรรถนะในการสร้างระบบผู้ตรวจสอบ
กิจการสหกรณ์ไทย” ร่วมต้อนรับ นายคริสเตียน อัลเบรชท์ ผู้เชี่ยวชาญจาก
DGRV (Deutscher Genossenschafts-und Raiffeisenverband e. V.)
ในโอกาสที่มาเยือนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อร่วมหารือรายละเอียดของ
หลักสูตร Business Inspectors : Finding Solutions for Support Thai
Cooperatives (การผลิตมาตรฐานผู้ตรวจสอบกิจการรองรับการพัฒนาสหกรณ์ไทย)
ณ ห้องประชุม 404 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
       ทั้งนี้ การผลิตมาตรฐานผู้ตรวจสอบกิจการเพื่อรองรับการพัฒนาสหกรณ์ไทย
ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการในระยะที่ 2 ภายหลังจากที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
และมูลนิธิฮันส์ ไซเดล ประเทศไทย ได้ร่วมกันพัฒนาผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์
การเกษตร ในหลักสูตร “เพิ่มศักยภาพผู้ตรวจสอบกิจการ” ไปแล้ว 5 รุ่น รวม 150 คน
ช่วงต้นปี 2553 ที่ผ่านมา เป็นผู้ตรวจสอบกิจการจากสหกรณ์ต่างๆ แยกตามรายผลผลิต
ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
       สำหรับการอบรมผู้ตรวจสอบกิจการในครั้งนี้ มุ่งผลิตมาตรฐานผู้ตรวจสอบกิจการ
(Standard Inspectors) โดยให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง ได้แก่ การวิเคราะห์
ภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ 6 มิติ (CAMELS ANALYSIS) การเฝ้าระวังและเตือนภัย
ทางการเงิน (WARNING SYSTEM) และการรายงาน (REPORTING) โดยเน้นหนัก
ในเรื่องของ “การรายงาน” ของผู้ตรวจสอบกิจการ ที่ควรเป็นรายงานในเชิงวิเคราะห์
สังเคราะห์ ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านความเสี่ยง ทั้งนี้ เพื่อให้สหกรณ์ได้รับ
ประโยชน์สูงสุด กล่าวคือ สร้างกำไรให้เกิดขึ้นในกระบวนการสหกรณ์ ทั้งยังป้องกัน
และลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ให้แก่สหกรณ์ด้วย
       และเพื่อให้หลักสูตรดังกล่าวมีความสมบูรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และ
DGRV ได้วางแผนในการนำกลุ่มผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ภาคการเกษตรจาก
พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ภาคละ 10 คน รวม 30 คน
ร่วมอบรมบทบาทสมมติ ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 – 3 มิถุนายน 2553
โดยแบ่งเป็น 3 รุ่น รุ่นละ 4 วัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่สมบูรณ์ในหลักสูตรดังกล่าว
ก่อนที่จะนำไปใช้ในการอบรมเพื่อผลิตมาตรฐานผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์รองรับ
การพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรทั่วประเทศต่อไป