รมว.กษ. ตรวจเยี่ยมกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมมอบ
นโยบายการปฏิบัติงาน
 
          เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะเข้าตรวจเยี่ยมกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาขับเคลื่อนองค์กรให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
พร้อมด้วย นางรพีพร กลั่นเนียม นางสุวรรณี ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์ คณะผู้บริหาร และบุคลากรในสังกัดให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ท่านอธิบดี
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้แนะนำผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การรายงานภารกิจ
อำนาจหน้าที่ กรอบอัตรากำลัง ปริมาณงานในความรับผิดชอบ งบประมาณ การขับเคลื่อน
นโยบายรัฐบาลและนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งผลการดำเนินงาน และ
ประเด็นที่ขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงฯ ณ ห้องประชุม 404 อาคาร ชั้น 4 กรมตรวจ
บัญชีสหกรณ์ และผ่านระบบ Zoom Meeting
          รมว.นฤมล กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท
ในการสร้าง
ความเข้มแข็งทางการเงินการบัญชีภาคการเกษตร โดยการพัฒนาองค์ความรู้และพัฒนา
ศักยภาพการบริหารจัดการทางการเงินให้แก่สหกรณ์และสมาชิก ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ
โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เตรียมดำเนินการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อขยายขอบเขต
การตรวจสอบ และการกำกับดูแลด้านความเสี่ยงของสหกรณ์ และสมาชิกให้มีประสิทธิภาพ
และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ครอบคลุมความเสี่ยงในทุกมิติภาคการเกษตร เช่น วิธีการ
ดำเนินการ การลดต้นทุนการผลิต การใช้เครื่องจักรเครื่องมือหรือเทคโนโลยี เพื่อยกระดับ
เกษตรกรไทยให้มีความเข้มแข็งทางด้านการเงินการบัญชี ตลอดจนการลดความเสี่ยง
เพิ่มความมั่นคงให้สมาชิกสหกรณ์อีกด้วย
          โดย รมว.กษ. ได้มอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนภารกิจของกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์
5 นโยบายหลัก ดังนี้
          1. มุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันเกษตรกร โดยการ
ผลักดัน
การใช้เทคโนโลยีด้านการบัญชีสหกรณ์ เพื่อพัฒนาความสามารถการใช้ข้อมูลสำหรับการ
วางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
อีกทั้งยกระดับการกำกับสหกรณ์ด้วยระบบ Core Banking ในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่
ที่มีความพร้อม และพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการบริหาร อาทิ ศูนย์ข้อมูลด้านการเงิน
และระบบเตือนภัยทางการเงิน แบบ Real Time
          2. รักษามาตรฐานวิชาชีพ โดยการสร้างมาตรฐานด้านบัญชีสหกรณ์ อาทิ การทบทวน
และปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล อีกทั้งพัฒนาเกณฑ์มาตรฐาน
โปรแกรมระบบบัญชี และรักษาคุณภาพการสอบบัญชี โดยการต่อยอดและพัฒนาระบบเทคโนโลยี
เพื่อการตรวจสอบบัญชีอย่างเป็นระบบและได้มาตรฐาน
           3. แก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสหกรณ์ สำหรับการพัฒนาระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยแบบ Real Time
พร้อมทั้งร่วมตรวจสอบและประเมินระบบการควบคุมภายในด้านการเงินการบัญชี
          4. ส่งเสริมเกษตรกรเข้มแข็งด้วยบัญชี โดยการพัฒนา Application เพื่อการบันทึกข้อมูล
ควบคู่กับการส่งเสริมองค์ความรู้เกษตรกรด้านการจัดทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย ต่อยอดสู่การ
เสริมสร้างวินัยทางการเงินอย่างมั่นคง ต่อไป
          5. การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถและศักยภาพให้เท่าทันกับการทำ
ธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งมีการทำทุจริตรูปแบบใหม่ๆ โดยต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่รู้เท่าทันอย่างมีประสิทธิภาพ
          ทั้งนี้ ได้ให้กำลังใจกับบุคลากรของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้มีความภูมิใจกับหน่วยงาน
ถึงจะเป็นหน่วยงานที่ทำงานเบื้องหลังเป็นหลัก แต่ก็มีความสำคัญมากหน่วยงานหนึ่งด้วย