กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นำบัญชีเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ
นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า เนื่องในเดือนมหามงคล
ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ ๗๐ พรรษา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยน้อมนำพระราชปณิธาน "สืบสาน รักษา ต่อยอด มาถือปฏิบัติ เพื่อมุ่งสร้าง
ประโยชน์สุขสู่ประชาชน โดยโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ
สยามมกุฎราชกุมาร เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เข้าร่วมบูรณาการงานร่วมกับ
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล
ดำเนินงานในรูปแบบการบูรณาการนักวิชาการเกษตรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน น้ำ ส่งเสริมการเกษตร และด้านอื่น ๆ โดยอาศัยเครื่องมืออุปกรณ์เข้าช่วยในการ
ปฏิบัติงาน ทำให้การบริการทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีบรรลุผลสำเร็จ สามารถกระตุ้นให้เกษตรกร
เกิดการตื่นตัวและยอมรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ ทั้งนี้ กรมฯ ได้เข้าร่วมบูรณาการงานเสริมสร้างความรู้และบริการ
ให้คำปรึกษาแนะนำการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชน ในโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกษตรกร
สามารถบันทึกรายรับ รายจ่ายประจำวัน ทำให้ทราบฐานะการเงินของตนเอง และวางแผนการประกอบอาชีพได้
โดยมีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทั้ง ๗๗ จังหวัด จัดตั้งหน่วยปฏิบัติงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ประจำจังหวัดขึ้น
เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านบัญชีแก่เกษตรกรอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่
เกษตรกรและชุมชน
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ในคลินิกบัญชี ประกอบด้วยกิจกรรมการเสริมสร้างความรู้
ความเข้าใจด้านบัญชีให้แก่เกษตรกร เยาวชน นักเรียนและประชาชนที่มาขอรับบริการ และให้คำแนะนำในฃ
แต่ละเรื่อง เช่น การจัดทำบัญชีในครอบครัว สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน การจัดนิทรรศการความรู้เรื่องบัญชี
สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้เข้าชมสนใจและเห็นความสำคัญของการทำบัญชี เน้นให้รู้ว่าเมื่อทำบัญชีแล้วมีประโยชน์
อย่างไร การคิดกำไรขาดทุนจากการประกอบอาชีพมีวิธีการอย่างไร เป็นต้น นอกจากการสอนแนะความรู้การ
จัดทำบัญชีรับจ่ายในครัวเรือน บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพและบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมให้คำ
ปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาด้านการบัญชีแก่ผู้รับบริการ เพื่อให้รู้รายรับ รายจ่ายของตนเองและครอบครัว
สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์วางแผนให้เกิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสมแล้ว ยังแนะนำ
การใช้โปรแกรมบัญชีรายบุคคล Smart Me ซึ่งเป็น Mobile Application ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป สามารถจดบันทึกข้อมูลบัญชีบนสมาร์ทโฟน ได้ทุกที่
ทุกเวลา โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ กรมฯ ได้ร่วมจัดนิทรรศการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ แบ่งเป็น คลินิกเกษตร
เคลื่อนที่ ภายใต้โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ
สยามมกุฎราชกุมาร ในพื้นที่ ๗๗ จังหวัด ๆ ละ ๔ ครั้ง รวม ๓๐๘ ครั้ง (ตามแผนงานของกรมส่งเสริมการเกษตร)
และนิทรรศการคลินิกจังหวัดเคลื่อนที่ ๕๗ จังหวัด รวม ๔๒๐ ครั้ง (ตามแผนจังหวัด) รวมจำนวนผู้เข้ารับบริการ
กว่า ๒ หมื่นราย
ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของการส่งเสริมการจัดทำบัญชี คือการเสริมสร้างให้ประชาชนเกิดการพึ่งพาตนเอง
ให้มีภูมิคุ้มกัน สามารถปรับตัวสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงมีการลงนามบันทึก
ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตามโครงการ "ชุมชนคนทำบัญชี เพื่อความ
มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้พัฒนาศักยภาพ
ในการจัดทำบัญชีรับ จ่าย ในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ส่งเสริมการปรับพฤติกรรมในระดับ
ครัวเรือน ให้มีขีดความสามารถในการจัดการวางแผนชีวิต การเงินและอาชีพ สร้างความตระหนักรู้เรื่องความ
สำคัญของการจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และการนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาปรับใช้ในการวางแผนการ
ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สร้าง
ความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชน มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนในชุมชนพื้นที่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นในทุกอำเภอทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการสอนทำบัญชีโดยครูบัญชีอาสาของกรมฯ จำนวน
๗,๖๓๖ ราย ทั้งนี้ เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม - ๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วม
โครงการกว่า ๗ หมื่นราย