กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ สร้างความเข้มแข็งในสหกรณ์พื้นที่โครงการหลวง ชูสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด ต้นแบบสหกรณ์ดีเด่นใช้โปรแกรมฯ บริหารงานครบวงจร
   
       นางพจนีย์ แสนลา ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 7 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า โครงการหลวง ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ให้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 เพื่อพัฒนาการเกษตรที่สูง ลดการปลูกพืชเสพติดและการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร โดยมีพระราชประสงค์จะทรงช่วยเหลือราษฎรบนพื้นที่สูงใน ถิ่นทุรกันดารให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตลอดจนอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น พระองค์จึงทรงส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อฝึกให้เกษตรกรรู้จักวิธีดำเนินงานของระบบสหกรณ์และเกิดทัศนคติ เห็นความสำคัญของการมีสหกรณ์โครงการหลวง โดยใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มกันดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีความกินดีอยู่ดีทั้งภายในชุมชนและนอกชุมชน นอกจากนี้ ระบบสหกรณ์ ยังเป็นพื้นฐานของการสร้างระบอบประชาธิปไตย โดยมีสมาชิกสหกรณ์บริหารจัดการองค์กรร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหา ความเป็นอยู่ให้กับชาวบ้านบนพื้นที่สูงใน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน ลำพูน พะเยา ตาก กำแพงเพชร กาญจนบุรี ลำปาง และเพชรบูรณ์ รวมสหกรณ์ในโครงการหลวงทั้งสิ้น จำนวน 56 แห่ง ปริมาณธุรกิจรวมทั้งสิ้นกว่า 305.826 ล้านบาท
         กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มีโอกาสทํางานสนองตามเบื้องพระยุคลบาท โดยสนับสนุนการนำระบบบัญชีสหกรณ์ มาใช้บริหารจัดการสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ภายใต้ความโปร่งใส สร้างธรรมาภิบาลที่ดีให้เกิดขึ้นในสหกรณ์ โดยเข้าไปช่วยเหลือ ให้คําแนะนําด้าน การวางระบบบัญชี การจัดทําบัญชี การควบคุมภายใน และสนับสนุนการนำเทคโนโลยีและระบบออนไลน์มาใช้ เพื่อให้ ก้าวทันกับยุคสมัยและตอบสนองกับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยให้การดำเนินธุรกิจสหกรณ์ มีความก้าวหน้าและก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง
          ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน ลำพูน และ พะเยา มีสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงทั้งสิ้น จำนวน 51 แห่ง ดำเนินธุรกิจสินเชื่อ รับฝากเงิน จัดหาสินค้ามาจำหน่าย รวบรวมผลิตผลการเกษตร แปรรูปผลิตผล และให้บริการ/ส่งเสริมการเกษตร สามารถเอื้ออำนวยประโยชน์แก่สมาชิกได้ 10,132 คน มีมูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น 183,719,680.34 บาท โดยใช้แหล่งเงินทุนภายในที่เป็นทุนของสหกรณ์เอง จำนวน 73,716,604.50 บาท และแหล่งเงินทุนภายนอก จำนวน 112,679,983.74 บาท ผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ จำนวน 6,897,993.76 บาท
          สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด เป็นสหกรณ์หนึ่งในพื้นที่โครงการหลวงของจังหวัดเชียงใหม่ ที่นำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) ซึ่งพัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มาเป็นเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการงานสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความแม่นยำ โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก โดยมีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เชียงใหม่ คอยดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำในการติดตั้งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยในปี พ.ศ. 2563 ได้รับการคัดเลือกเป็นสหกรณ์ดีเด่นและเป็นสหกรณ์ต้นแบบของสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง มีทุนดำเนินงานกว่า 38 ล้านบาท สามารถเอื้ออำนวยประโยชน์แก่สมาชิกกว่า 400 คนในพื้นที่ 13 หมู่บ้านของตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณธุรกิจโดยรวมกว่า 57 ล้านบาท โดยดำเนินธุรกิจ 5 ด้าน ได้แก่ 1.) การจัดหาสินค้าประเภทการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง และอุปโภค-บริโภคมาจำหน่าย 20 ล้านบาท 2.) การรวบรวมผลผลิตเกษตรประเภทพืชผักเมืองหนาว 10 ล้านบาท 3.) การให้สินเชื่อเพื่อเป็นทุนให้สมาชิกใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม 10 ล้านบาท 4.) การให้บริการ รับ - ส่งกล่องดอกไม้สด 1 ล้านบาท 5.) การรับฝากเงิน 16 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้สมาชิกรู้จักการ เก็บออมไว้ใช้ในคราวจำเป็น รวมทั้งให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของสหกรณ์โดยการถือหุ้นเพิ่มอย่างน้อย 10 หุ้นทุกปี
        ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 27 ปี สหกรณ์ฯ ได้มีการพัฒนาการจัดทำบัญชีเพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกและรองรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น โดยในปี พ.ศ.2558 สหกรณ์ฯ ได้ปรับเปลี่ยนการบันทึกบัญชีด้วยมือ (Manual) มาใช้ โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (Full Pack Accounting System : FAS) ในการประมวลผลทางการเงิน ได้แก่ ระบบสมาชิกและหุ้น ระบบเงินให้กู้ ระบบสินค้า ระบบเงินรับฝาก และระบบบัญชีแยกประเภทที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้น เพื่อให้สหกรณ์สามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว มีระบบข้อมูลบัญชีที่ได้มาตรฐาน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทำให้สมาชิกเกิดความเชื่อมั่น ในองค์กรที่ตนเป็นสมาชิก ผู้บริหารสหกรณ์มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ติดตาม ควบคุมการบริหารจัดการสหกรณ์ สหกรณ์สามารถปิดบัญชีประจำปีได้เร็วและจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด เป็นผลให้สมาชิกได้รับเงินปันผลตามหุ้นและเงินเฉลี่ยคืนตามส่วนธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น
         "ถึงแม้ว่าสหกรณ์จะมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลบนภูเขาสูง และมีเส้นทางคดเคี้ยว รวมทั้งสมาชิก กรรมการ และฝ่ายจัดการของสหกรณ์ เป็นพี่น้องชนเผ่าบนภูเขาสูง แต่สหกรณ์สามารถใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร ให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นสหกรณ์ดีเด่นในพื้นที่โครงการหลวง เป็นสหกรณ์ต้นแบบแหล่งศึกษาดูงานการใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรให้สหกรณ์อื่น ๆ สามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว มีระบบข้อมูลบัญชีที่ได้มาตรฐาน โปร่งใสในการตรวจสอบ และทำให้สมาชิกเกิดความเชื่อมั่น” นางพจนีย์ กล่าว