รมตรวจบัญชีสหกรณ์ แนะสร้างความมั่นคงในครัวเรือนด้วยการทำบัญชีและสร้างนิสัยการออม พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal
          นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่สังคมกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่หรือที่เรียกว่า New Normal ส่งผลให้ประชาชนต้องรู้จักการปรับตัวเพื่อพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่อาจเกิดความผันผวน ไม่แน่นอน ดังนั้น การมีวินัยทางการเงิน จึงเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นในการวางแผนการดำเนินชีวิต เป็นอย่างมาก เพราะปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินในครัวเรือนและในการประกอบอาชีพ มักเกิดจากการขาดการวิเคราะห์วางแผนทางการเงินที่ถูกต้อง การทำบัญชี จึงถือเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงทำให้ทราบรายรับ – รายจ่าย และข้อมูลทางการเงินเท่านั้น แต่ข้อมูลทางบัญชีสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้ผู้ทำบัญชีสามารถดำรงชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการสอนแนะการจัดทำบัญชีครัวเรือนให้กับเกษตรกร ประชาชน และเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่าย และสร้างความเคยชิน ในการออม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน นำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ส่วนผู้มีรายได้ประจำ แม้จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า แต่หากสถานการณ์ระบาดของโรคดังกล่าวยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในระยะยาวก็อาจส่งผลกระทบต่อนายจ้างที่ต้องแบกรับภาระ จนส่งผลกระทบถึงลูกจ้างได้เช่นเดียวกัน แต่สำหรับคนที่มีการจัดทำบัญชี และมีการออมเงินโดยสม่ำเสมอ จะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากมีข้อมูลจากการบันทึกบัญชี ทำให้สามารถ วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างสมเหตุสมผล และมีความมั่นคงทางการเงินในครัวเรือน โดยสามารถนำหลักการทำบัญชี ๓ มิติ มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ได้แก่ รู้ตนเอง รู้สภาพแวดล้อม และรู้อนาคต ยึดตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพึ่งตนเอง รู้จักความพอประมาณ และไม่ประมาท สามารถคิด วางแผน แล้วนำไปพัฒนาอาชีพของตนเองได้ โดยมีบัญชีเป็นภูมิคุ้มกันและคู่มือชีวิต ซึ่งเป็นหลักการที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด จึงจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่าง มีสติ
ไม่ประมาท และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
          "จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะประกอบอาชีพสาขาใดก็ตาม เราจะต้องลงมือทำด้วยตนเองมากขึ้น และลดการจ้างในส่วนที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรรม ที่นอกจากจะต้องลงมือทำด้วย ตนเองแล้ว จะต้องรวมกลุ่มกันอย่างจริงจังเพื่อสร้างโอกาสในการตลาด ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งคุณภาพ ปริมาณ และความหลากหลายของสินค้าที่ตรงกับความต้องการ รวมไปถึงการสร้างวินัยทางการเงินที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากรู้จักการทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจัดระเบียบวินัยในการใช้จ่าย มีการวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชี ส่งผลให้เกิดช่องทางในการออมและเพิ่มรายได้ สามารถวางแผนในการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิต เป็นการสร้างวินัยและความมั่นคงให้ตนเองและครอบครัว” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว.