|
|
"ไมตรี พวงอินทร์ ยึดการทำบัญชี เปรียบเสมือนคัมภีร์การทำเกษตรแบบพอเพียง |
ครูบัญชีอาสาจังหวัดราชบุรี ใช้บัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ
เป็นคัมภีร์ในการทำการเกษตร รู้จักการบันทึกข้อมูล แล้วนำมาคิดวิเคราะห์ จนประสบความสำเร็จ และได้รับคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประเทศ ประจำปี 2563
นายไมตรี พวงอินทร์ ครูบัญชีอาสา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม
จ.ราชบุรี ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประเทศ ประจำปี 2563 เล่าย้อนประวัติการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้ฟังว่า เคยล้มเหลวจากการทำเกษตรแบบพึ่งพาสารเคมี มาก่อน แต่หลังจากเข้าไปศึกษาเรียนรู้ที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี ได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้โดยการทำเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจนประสบความสำเร็จ จนกระทั่งในปี 2550 ได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 80 คนของประเทศ ด้านหมอดินดีเด่น ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อนเกษตรกรเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง และได้พัฒนาหาองค์ความรู้มาต่อยอดสิ่งที่ทำอยู่เสมอ แต่ก็ดูเหมือนว่างานที่ทำอยู่ยังขาดอะไรบางอย่างที่เป็นเป้าหมายในชีวิต จนกระทั่งได้ฟังพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง "การทำข้อมูลทางบัญชี ที่ให้รู้จักการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ แล้วนำมาคิดวิเคราะห์ใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ จึงได้ศึกษาและน้อมนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเรื่อยมาตามคำแนะนำของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ราชบุรี จนกระทั่งในปี 2557 ได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรมครูบัญชีอาสาตามคำชักชวนของประธานชมรมครูบัญชีอาสาจังหวัดราชบุรี ทำให้ยิ่งซึมซับในเรื่องของการทำบัญชีมากขึ้น และเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ก็ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการทำเกษตร การประหยัดอดออม การทำบัญชี และการนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์แล้วนำไปใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชให้แก่ลูกๆ จนลูกๆ มีความโดดเด่นในเรื่องการทำเกษตรและได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรในชุมชนอีกด้วย
นายไมตรี บอกว่า ปัจจุบันทำเกษตรพื้นที่ 20 กว่าไร่ รูปแบบแปลงเกษตรเป็นแบบผสมผสาน มีพืชผักสวนครัว ไม้ยืนต้น พืชไร่ โดยจะแบ่งเป็นแปลง ๆ ละ 2-4 ไร่ นอกจากนี้ ยังรวบรวมเกษตรกรในชุมชนร่วมกันทำงานกันเป็นกลุ่ม ภายใต้ "กลุ่มเกษตรกรเครือข่ายขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี ทำเกษตรแบบอินทรีย์และปลอดสาร ส่งผลผลิตจำหน่ายตลาดทั่วไปในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ส่งร้านโครงการหลวง รวมถึงผลิตป้อนตลาดเพื่อสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล เป็นต้น โดยจะแนะนำให้เกษตรกรในกลุ่มทุกคนรู้จักการทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพควบคู่กันไปด้วย
ประโยชน์จากการทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพที่นำมาประยุกต์ใช้ ทำให้มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้รู้ที่มาที่ไปของรายได้ทั้งหมดในแต่ละปี แล้วสามารถนำข้อมูลเหล่านั้น มาวิเคราะห์ วางแผนการผลิตในปีต่อไปได้ โดยเป้าหมายไม่ได้ต้องการให้ร่ำรวย แต่ต้องการให้เกิดความมั่นคงทั้งครอบครัวและชุมชนมากกว่า ความสุขเหล่านี้เป็นความสุขที่เกิดจากการเห็นทุกคนประสบความสำเร็จ ไปด้วยกันโดยมีตนอยู่เบื้องหลัง การทำบัญชีทำให้รู้จักเหตุและผล ทำให้รู้จักการพอประมาณตน ทำให้เกิดพลังปัญญา คิดวิเคราะห์จนเกิดแนวทางพัฒนาต่อยอด ดังนั้นการทำบัญชี เปรียบเสมือนคัมภีร์การทำเกษตรแบบพอเพียง เป็นพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจและเคยชิน
"อยากจะบอกว่าการจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ หรือกิจกรรมที่เราทำอยู่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ คนเราจะประสบความสำเร็จได้จะต้องมีการคิดคำนวณและวิเคราะห์ ผมมีคติประจำใจอยู่ว่า ง่าย ไว ใหม่ ใหญ่ ยั่งยืนและ มีความสุข นั่นหมายถึง ง่าย คือ ทำอะไรอย่าคิดว่าเป็นเรื่องที่ยาก ไว คือ งานที่ทำต้องไว งานไหนที่จะทำแล้วมันช้ามาก ก็ไม่น่าที่จะทำ ใหม่ คือ งานที่ทำต้องเป็นงานที่ใหม่ด้วย ไม่ซ้ำกับใคร ใหญ่ คือ สิ่งที่เราทำต้องเป็นเรื่องใหญ่ ยั่งยืน คือ ทุกงานที่ทำจะต้องสร้างความยั่งยืน มีความสุข คือ ทุกสิ่งที่ทำจะต้องสร้างความสุขแก่ครอบครัว ชุมชน ตลอดจนประเทศชาติ ซึ่งการทำบัญชีแม้อาจะเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเราใช้ชีวิตแบบสะเปะสะปะ ชีวิตที่ลำบากมันจะเป็นเรื่องที่ยากกว่า ถ้าอยากใช้ชีวิตให้มีระเบียบให้หันมาทำบัญชีดีกว่า จะทำให้เรามีเป้าหมายที่มั่นคงขึ้น นายไมตรี ฝากข้อคิดทิ้งท้าย |
|
|
|
|