กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หนุนวิสาหกิจชุมชนเข้มแข็งด้วยบัญชี สร้างอาชีพ
สร้างรายได้สู่ชุมชน
 
         กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หนุนวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ ใช้บัญชีบริหารจัดการธุรกิจ วางระบบการ ควบคุมภายใน สร้างความโปร่งใส พัฒนาศักยภาพสู่ความเข้มแข็ง ยั่งยืน พึ่งพาตนเองได้ ชูวิสาหกิจชุมชนผ้าไหมมัดหมี่บ้านหัวฝาย จ.ขอนแก่น ต้นแบบวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ ใช้หลักการตลาดนำการผลิต นำบัญชีบริหารธุรกิจอย่างเป็นระบบ
         นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทั่วประเทศ เข้าไปแนะนำการวางระบบบัญชีและระบบการควบคุมภายในให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือต่อสมาชิกและบุคคลภายนอก รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านสมุดบัญชี และเอกสารในการบันทึกบัญชี เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนสามารถบันทึกบัญชีและจัดทำงบการเงินได้ สามารถนำข้อมูลจากงบการเงินไปใช้ในการบริหารงานจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ และติดตามการจัดทำบัญชีและงบทดลองเพื่อให้วิสาหกิจชุมชนทราบฐานะทางการเงินของกลุ่ม สามารถใช้ข้อมูลทางการเงินและการบัญชีมาเป็นเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์สถานะการดำเนินงานของกลุ่ม ทำให้เกิดการควบคุมภายในที่ดี มีความเข็มแข็ง สามารถพึ่งตนเอง สร้างรายได้สู่สมาชิกและชุมชน รวมทั้งพัฒนาวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพดีอยู่แล้วให้มีความเข็มแข็งอย่างยั่งยืน
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า วิสาหกิจชุมชนผ้าไหมมัดหมี่บ้านหัวฝาย ตำบลปอแดง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ดำเนินธุรกิจการทอผ้าไหม ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมครบวงจร รวมทั้งการปลูกผักปลอดภัยและกิจกรรมแบบผสมผสาน โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต สร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสมในชุมชน สามารถบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า เพื่อมุ่งหวังให้สมาชิกและเกษตรกร มีการกินอยู่ดี มีรายได้เพิ่มจากการประกอบอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นตัวอย่างของวิสาหกิจชุมชนต้นแบบที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เข้าไปสนับสนุนองค์ความรู้ในการจัดทำบัญชี ทำให้มีการจัดทำบัญชีอย่างเป็นระบบ สะดวกในการใช้งานและมีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่จัดเก็บอย่างต่อเนื่อง สามารถจัดทำงบทดลองและงบการเงิน ตลอดจนนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริหารงานธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยกรมฯ ได้เข้าไปสอนแนะการจัดทำเอกสารประกอบการบันทึกรายการบัญชี จัดทำบัญชีในสมุดขั้นต้น สมุดบัญชีขั้นปลาย ทะเบียนคุมย่อย รายละเอียดต่างๆ ทำให้สามารถจัดทำเอกสารการรับ-จ่ายเงิน บันทึกบัญชีในสมุดเงินสด ทะเบียนสมาชิกและหุ้น ทะเบียนคุมสินค้าและเอกสารอื่นๆ รู้ต้นทุนการผลิต กำไรขาดทุน สามารถจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีและจ่ายเงินปันผลแก่สมาชิกได้รวดเร็ว สร้างความเชื่อถือให้กับสมาชิกและชุมชน จนได้รับรางวัลชนะเลิศ วิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2562 จากกรมส่งเสริมการเกษตร
         ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมภายในกลุ่ม มีการจัดแบ่งหน้าที่กันและมีการรวมหุ้นเพื่อนำทุนมาใช้ประกอบกิจการ ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของสมาชิก พัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน ส่งเสริมการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยการทำกิจกรรมปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การบริโภคและจำหน่ายหม่อนไหม การปลูกผักปลอดสารพิษ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยการทอผ้าไหมมัดหมี่ลายต่างๆ ด้วยความประณีต มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ โดยได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยชนิด THAI SILK ตรานกยูงสีน้ำเงิน ปี 2550 มาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าผืนผ้าไหม ชนิด ROYAL THAI SILK ตรานกยูงทอง ปี 2551 และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยประเภท ผ้าผืน ผ้าไหม ชนิด ROYAL THAI SILK ตรานกยูงสีน้ำเงิน ปี 2559 นอกจากนี้ มีการสร้างเครือข่ายกับกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในชุมชนและตำบล อำเภอ จังหวัด และทางออนไลน์ เป็นแหล่งเรียนรู้กิจกรรมเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ SMART Group และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานได้อีกด้วย.