รมช.กษ. เปิดประชุมสัมมนาวิชาการ "เหลียวหลัง...แลหน้า 67 ปี
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์” มุ่งสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชีแก่
สหกรณ์และเกษตรกรไทย
 
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาวิชาการ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เรื่อง "เหลียวหลัง...แลหน้า 67 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์” ในวันที่ 3 กันยายน 2562 โดยมีนายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากรให้การต้อนรับ ณ อิงธาร รีสอร์ท จังหวัดนครนายก
    นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีภารกิจในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร เกษตรกร และประชาชน โดยการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จ มีระบบบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีที่โปร่งใส ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงการเสริมสร้างองค์ความรู้ทางบัญชี เพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร ประชาชนรวมทั้งเยาวชน ให้มีความรู้พื้นฐานในเรื่องบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ซึ่งการทำบัญชีนี้ ถือเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จในการประกอบอาชีพทุกอาชีพ และเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตลอดระยะเวลา 67 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงของยุคต่างๆ ยุคแรก เป็นการส่งผู้สอบบัญชีจากส่วนกลางไปตรวจบัญชีให้กับสหกรณ์ต่างๆ ยุคต่อมามีการจัดตั้งสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดและเข้าแนะนำการจัดทำบัญชีให้กับสหกรณ์ ในทุกเดือน ยุคที่ 3 เป็นการถ่ายโอนการสอบบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์บางส่วนให้กับภาคเอกชน และมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการทำบัญชีและการสอบบัญชี ยุคที่ 4 เป็นการสร้างเครือข่ายครูบัญชีอาสาเพื่อมาช่วยงานด้านการสอนบัญชีให้แก่เกษตรกร เยาวชนและกลุ่มเป้าหมายในโครงการพระราชดำริ และยุคปัจจุบัน เป็นการยกระดับการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชี และพัฒนาผู้สอบบัญชีให้เป็นมืออาชีพ รวมทั้งเตรียมความพร้อมสู่การปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายตามที่กำหนดไว้ในแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2561-2580 การดำเนินงานของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์เป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบ ความเอาใจใส่ เป็นงานในลักษณะที่เรียกได้ว่า ปิดทองหลังพระ เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเกษตรกร ซึ่งเป็นองค์กรระดับฐานรากของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ หากสถาบันเกษตรกรเหล่านี้มีความเข้มแข็ง การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศก็จะเติบโตอย่างมั่นคง เช่นเดียวกับธุรกิจของภาคสหกรณ์ในปัจจุบันที่เข้ามามีบทบาทในภาคการเงินของประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเกิดความคลอนแคลน ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและการธนาคารของประเทศได้  
          "ขอฝากข้าราชการและบุคลากรของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกท่าน ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เป็นแขนเป็นขา ในการทำหน้าที่ตรวจสอบระบบการเงินการบัญชี การควบคุมภายใน และการดำเนินงานของสหกรณ์ ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริต และเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อให้สถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” รมช.กษ. กล่าว
       ด้านนายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ของรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาสู่การปฏิบัติ สอดคล้องตามภารกิจหน้าที่ของกรมฯ การประชุมสัมมนาในหัวข้อ "เหลียวหลัง...แลหน้า 67 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2562 เพื่อเป็นการสำรวจตรวจตราการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อมสำหรับทิศทางและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในอนาคต โดยผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้บริหาร ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการสำนัก/กอง/ศูนย์ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1-10 หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัด รวมทั้งข้าราชการในระดับต่างๆ และพนักงานราชการ จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,000 คน กิจกรรมประกอบด้วย การรับฟังปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ทิศทางกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในอีก 5 ปี ข้างหน้า” การเสวนา/อภิปราย เรื่อง "รู้เท่าทัน...กลลวงสหกรณ์” โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ การประชุมสัมมนาดังกล่าวนอกจากจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ปฏิบัติจากทั่วประเทศแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามัคคี และสร้างเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป.