กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พัฒนาความรู้ผู้สอบบัญชีรู้เท่าทันเทคโนโลยี
สามารถประเมินมาตรฐานขั้นต่ำการควบคุมภายในให้สหกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูล
 
      กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดอบรมหลักสูตร การประเมินมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและการรักษาความปลอดภัย สำหรับสหกรณ์ที่ประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ เน้นผู้สอบบัญชีรู้เท่าทันเทคโนโลยี สามารถประเมินมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและการรักษาความปลอดภัยสำหรับสหกรณ์ที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของสหกรณ์
           นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ในปัจจุบันที่เป็นยุคของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้การดำเนินงานธุรกิจของสหกรณ์มีการปรับตัวให้ก้าวทันกับยุคสมัย โดยนำคอมพิวเตอร์และนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้อำนวยความสะดวกในการบริหารงานของสหกรณ์มากขึ้น มีการใช้โปรแกรมระบบบัญชีประมวลผลข้อมูล เพื่อช่วยให้ระบบการเงินการบัญชีของสหกรณ์มีความเข้มแข็ง มีการควบคุมภายในที่ดี สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงและความเสียหายแก่ระบบสารสนเทศของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงได้ออกระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและการรักษาความปลอดภัยสำหรับสหกรณ์ละกลุ่มเกษตรกรที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูล พ.ศ.๒๕๕๓ เพื่อให้มีระบบการบริหารจัดการและการควบคุมงานด้านคอมพิวเตอร์อย่างมีระบบและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งได้กำหนดภาพกว้างที่สหกรณ์ต้องนำไปกำหนดวิธีปฏิบัติในรายละเอียดให้เหมาะสมกับสภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของแต่ละสหกรณ์
          อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า กรมฯ ยังได้เล็งเห็นความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ในฐานะผู้สอบบัญชีสหกรณ์ ที่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การประเมินมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและการรักษาความปลอดภัย สำหรับสหกรณ์ที่ประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ ปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ขึ้น เพื่อให้ผู้สอบบัญชีได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการประเมินมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายใน และการรักษาความปลอดภัยสำหรับสหกรณ์ที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูล มีความรู้เท่าทันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่สหกรณ์อาจนำมาใช้ และสามารถให้คำแนะนำเพื่อให้สหกรณ์มีแนวทางในการกำหนดวิธีการควบคุมภายในที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลักษณะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของสหกรณ์ รวมทั้งช่วยให้ผู้สอบบัญชีได้ใช้เป็นแนวทางในการประเมินความเสี่ยงในการสอบบัญชีและการควบคุมภายในของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สามารถป้องกันความเสี่ยงอันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของสหกรณ์ได้ โดยมีผู้สอบบัญชีที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสหกรณ์ ที่ประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์และเป็นสหกรณ์กลุ่มพร้อมรับการตรวจสอบ เข้ารับการอบรม จำนวน ๒ รุ่น รุ่นละ ๓๐ คน
          "เทคโนโลยีต่างๆ มีการพัฒนาให้มีความก้าวหน้าอยู่เสมอ ดังนั้น ผู้สอบบัญชีทุกคนต้องมีความรู้เท่าทันเทคโนโลยี เพื่อให้สอดรับกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ พัฒนาตนเองให้เป็น CYBER AUDITOR หรือ ผู้สอบบัญชีที่มีสมรรถนะด้านไอทีในระดับสูง มีองค์ความรู้และทักษะ   ด้านการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอบบัญชี เพื่อสร้างคุณภาพและความเชื่อมั่นของผลงานการสอบบัญชี รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดแก่งานสอบบัญชี ซึ่งถือเป็นการช่วยดูแลรักษาผลประโยชน์ให้กับสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศที่มีจำนวนมากกว่า ๑๐ ล้านคน”