กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดประชุมสัมมนาวิชาการ "เตรียมความพร้อมสู่
ปี ๒๕๖๒ สร้างสมดุลแห่งการพัฒนา สานงานประชารัฐเพื่อความยั่งยืน”
 
 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดการประชุมสัมมนาวิชาการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประจำปี ๒๕๖๑ เรื่อง "เตรียมความพร้อมสู่ปี ๒๕๖๒ สร้างสมดุลแห่งการพัฒนา สานงานประชารัฐเพื่อความยั่งยืน” ระหว่างวันที่๖- ๘ กันยายน ๒๕๖๑ ณ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
        นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี และนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาสู่การปฏิบัติ โดยมุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชีแก่เกษตรกร สถาบันเกษตรกร โดยกรมฯ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการให้องค์ความรู้ทางบัญชี ควบคู่กับภารกิจหลักด้านการวางระบบบัญชีและตรวจสอบบัญชีสหกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการยกระดับสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็งด้วยบัญชี เกษตรกรได้มีความรู้และเข้าใจในการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการภาคการเกษตรได้อย่างเหมาะสม สมดุล และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประชาชนได้ใช้บัญชีเป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจระดับฐานราก รวมถึงการพัฒนากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้เป็นแหล่งข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการเงินและการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ เพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ซึ่งมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
         ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้สอนแนะการทำบัญชีให้เกษตรกร แบ่งเป็นบัญชีในครัวเรือน จำนวน ๕.๖ ล้านครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ จำนวน ๒.๔ ล้านครัวเรือน เพื่อให้เกษตรกรสามารถ ทำบัญชีได้ ใช้ข้อมูลเป็น ใช้ข้อมูลทางบัญชีมาวางแผนการลงทุนและการผลิตได้ ส่งผลให้ผลผลิตได้ราคา มีรายได้เพิ่มและมีกำไร รวมทั้งได้สร้างเครือข่ายครูบัญชีอาสาทั่วประเทศ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความรู้การจัดทำบัญชี สู่เกษตรกร เยาวชน และคนในชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ก้าวสู่การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
        อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า การจัดประชุมสัมมนาวิชาการ ประจำปี ๒๕๖๑ ในหัวข้อ "เตรียมความพร้อมสู่ปี ๒๕๖๒ สร้างสมดุลแห่งการพัฒนา สานงานประชารัฐเพื่อความยั่งยืน”ระหว่างวันที่ ๖-๘ กันยายน ๒๕๖๑ นี้ จึงเป็นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรกรมฯ ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งจะเป็นการสะท้อนปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อนำไปปรับปรุง พัฒนา และต่อยอด การดำเนินงานในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ โดยนำปัจจัยแวดล้อมต่างๆ รวมถึงยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงฯ มาเป็นกรอบในการวางแผน อีกทั้ง เป็นโอกาสสำคัญให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็นและประสบการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความสามัคคีภายในองค์กรร่วมกัน.