กรมตรวจบัญชีสหกรณ์  ผยภาวะเศรษฐกิจสหกรณ์บริการ แนะใช้โปรแกรมระบบบัญชีช่วยในการบริการสมาชิก สร้างมาตรฐาน
ทางการเงินการบัญชี

         นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
   เปิดเผยว่า สหกรณ์บริการจัดเป็นสหกรณ์ประเภทหนึ่งซึ่งดำเนิน
   งานในหลากหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง เช่น 
   การเดินรถโดยสาร รถแท็กซี่ การขนส่งสินค้า และบริการ
   การเคหสถานและชุมชน ปัจจุบันมีสหกรณ์บริการทั้งสิ้น 691แห่ง 
   ส่วนใหญ่ดำเนินงานด้านการให้เงินกู้ การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย  
   การรับฝากเงิน และการรวบรวมผลิตผลทางการเกษตร มีปริมาณ
   ธุรกิจรวมทั้งสิ้น 5.7 พันล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 8.1 พันล้านบาท
   และมีทุนดำเนินงาน 8.1 พันล้านบาท 
         จากการวิเคราะห์แนวโน้มตั้งแต่ปี 2549-2553  พบว่า อัตรา
   การเพิ่มขึ้นของแหล่งเงินทุนภายใน  ซึ่งประกอบด้วยเงินรับฝาก
   จากสมาชิกและทุนสหกรณ์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ
   20.1 ในขณะที่แหล่งเงินทุนภายนอก ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้ยืม
   และเครดิตการค้ารวมกับเงินรับฝากและหนี้สินอื่นมีอัตราเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 41.9ซึ่งสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของแหล่งเงินทุนภายใน  และเมื่อพิจารณาหนี้สินรวม
ของสหกรณ์บริการพบว่าในระหว่างปี 2549 – 2553 หนี้สินรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ร้อยละ 48.3 
โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินหมุนเวียนคิดเป็นร้อยละ 51.5  เมื่อพิจารณาใน
รายละเอียดพบว่าเกิดจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากจากสมาชิกและสหกรณ์อื่นๆ คิดเป็น
ร้อยละ30.6 อย่างไรก็ตามพบว่ากำไรสุทธิโดยเฉลี่ยของสหกรณ์บริการเท่ากับ 126.8 ล้านบาท
ต่อปี หรือ 0.2 ล้านบาท ต่อแห่ง เมื่อคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิโดยเฉลี่ย 5 ปี
เท่ากับร้อยละ 54 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโดยส่วนใหญ่แล้วสหกรณ์บริการมีความสามารถในการ
สร้างรายได้และบริหารต้นทุนได้ค่อนข้างดีโดยพิจารณาจากอัตราการเพิ่มของต้นทุนเฉลี่ย
เท่ากับร้อยละ 3.5  ซึ่งน้อยกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิเฉลี่ยมาก 
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กล่าวอีกว่า  จากข้อมูลข้างต้นมีสิ่งที่น่าสนใจบางประการ
คือ สินทรัพย์หมุนเวียนเฉลี่ย 4.4 ล้านบาท  มีจำนวนใกล้เคียงกับหนี้สินหมุนเวียนเฉลี่ย
4.3 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ารายได้ที่เข้ามาส่วนใหญ่จะถูกนำไปชำระหนี้ระยะสั้น เมื่อพิจารณา
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของสหกรณ์บริการพบว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2549 – 2553 
เท่ากับ 1.8  แสดงว่าหนี้สินรวมคิดเป็น 1.8 เท่าของทุนรวม และจากอัตราลูกหนี้ระยะสั้นที่ชำระ
ได้ตามกำหนดมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 77.21  เมื่อเทียบเคียงกับมาตรฐานทางการเงินของสหกรณ์
แล้วพบว่าอยู่ในระดับพอใช้เท่านั้น
 
       “สหกรณ์บริการจะต้องพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของสหกรณ์เองเป็นหลัก 
เพื่อให้สหกรณ์มีสภาพคล่องทางการเงินอยู่ในระดับที่ปลอดภัย  นอกจากนี้สหกรณ์บริการควร
จะลดการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากภายนอกลง  และหันมาพึ่งแหล่งเงินทุนจากภายในให้มากขึ้น
เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางการเงินและลดความเสี่ยงในการดำเนินกิจการ ขณะเดียวกันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ก็ได้เร่งผลักดันให้สหกรณ์นำโปรแกรมระบบบัญชีไปช่วยในการบริหารงานโดย
ไม่คิดมูลค่า ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยสร้างระบบงานที่ได้มาตรฐานตามหลักสากลให้กับสหกรณ์ ส่งผลให้ข้อมูลมีความโปร่งใส  ถูกต้อง และทันต่อเหตุการณ์ผู้บริหารสามารถนำไป
ใช้ประกอบการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับองค์กรยิ่งขึ้น”  นายสิงห์ทอง  กล่าว