กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สานต่อโครงการในพระราชดำริ
               สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
หนุนนำบัญชีเป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในถิ่นทุรกันดาร
 
        "…อยากให้เด็กบันทึกบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน ให้กับผู้ปกครอง...จะได้รู้รายรับ
รายจ่าย ในครัวเรือน” พระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฮงเค็ลไทย จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560
 
         สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ "กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน" ที่จะทำให้เด็กๆ ได้ฝึกหัดทักษะในหลากหลายด้าน และทรงให้ความสำคัญในด้านการบัญชี ที่ถือเป็นการฝึกให้เด็กมีความละเอียดถี่ถ้วน โดยฝึกหัดให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ด้านการจัดทำบัญชี ให้รู้จักการคิดคำนวณ รู้จักการวางแผนผลิตและจำหน่ายสินค้า ปลูกฝังให้รู้จักการจดบันทึกบัญชี รายรับรายจ่ายส่วนตัว อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตของตนเอง และถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัวและชุมชน จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านสุขภาพอนามัยทางร่างกายและพัฒนาด้านจิตใจมีความพร้อมที่จะเรียนรู้ทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยการดำเนินโครงการฯ มุ่งเน้นให้เด็กนักเรียนมีความรู้และทักษะในการทำงานจากการฝึกปฏิบัติจริง เกิดการเรียนรู้ต่างๆอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต หากไม่เรียนต่อในชั้นที่สูงขึ้นไปก็สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพต่อไปได้
        กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้เข้าร่วมปฏิบัติงานสนองงานตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบัน เริ่มจากโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียน ในการให้คำแนะนำการวางระบบบัญชี และให้ความรู้ด้านการบัญชีที่เหมาะสมแก่ครูและนักเรียนในโครงการฯ ภายใต้แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารที่มีการปรับกรอบแนวคิดจากการพัฒนาแบบแยกส่วนแยกโครงการมาเป็นการพัฒนาแบบองค์รวม โดยได้สอดแทรกสอนแนะนำการจัดทำบัญชีไว้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อฝึกให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ด้านการบัญชี พร้อมปลูกฝังให้รักการจดบันทึกบัญชี สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้ที่สำคัญยังมุ่งให้รู้จักใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
          นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายน 2560 นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนงานโครงการตามพระราชดำริ โดยสานต่อโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จ    พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ส่งเสริมการจัดทำบัญชีกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียน ฝึกหัดให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ด้านการบัญชี รู้การคิดคำนวณเลข รู้วางแผนในการจำหน่ายสินค้าและผลผลิต ปลูกฝังให้รักการจดบันทึกบัญชี อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ครอบครัว และชุมชน เป็นการสร้างและพัฒนานักเรียนให้เป็นยุวเกษตรกร ได้มีโอกาสร่วมคิด ร่วมเรียนรู้ และร่วมพัฒนาภูมิปัญญาทางบัญชีผ่านกลไกสหกรณ์นักเรียน ซึ่งจะก่อให้เกิดวินัยการออมในอนาคต เป็นการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงการจัดการภูมิปัญญาทางบัญชีระหว่างโรงเรียน ยุวเกษตรกร ครอบครัว เกษตรกร และชุมชน โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนแบบบรรยายเป็นแบบ "โครงงาน” เป้าหมายเพื่อสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ด้านการบัญชีสหกรณ์นักเรียน สร้างโรงเรียนต้นแบบ "ทำบัญชี มีระบบการควบคุมภายในที่ดี มีการเรียนการสอนแบบโครงงาน และสร้างผู้ปกครองต้นแบบ” เปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมคิด ร่วมเรียนรู้ ร่วมพัฒนา โดยให้ครูเป็นที่ปรึกษา ทำให้รู้จักการใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยในปีนี้มีเป้าหมายคือ นักเรียนของโรงเรียนในสังกัด ตชด./สพฐ./กศน./พศ./กทม. จำนวน 534 โรงเรียน รวม 1,905 คน
       อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังได้ดำเนินโครงการพัฒนากลุ่มอาชีพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีให้แก่กรรมการกลุ่มอาชีพและผู้จัดทำบัญชี ให้สามารถจัดทำบัญชีและนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มอาชีพ เพื่อให้กลุ่มอาชีพ มีความมั่นคง สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างความก้าวหน้าให้แก่ตนเองและคนในครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีเป้าหมายในปีนี้คือ กรรมการกลุ่มอาชีพ จำนวน 190 คน
         นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมบูรณาการกับมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และภาคีเครือข่าย รวม 12 องค์กร ดำเนินโครงการค่าย "เยาวชน...รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” ซึ่งเริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่ปี 2558 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเห็นความสำคัญของการจัดทำบัญชี สามารถทำบัญชีรับ-จ่าย วิเคราะห์และวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างง่ายๆ ได้ นำไปสู่ความพอเพียงตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยในปี 2558 มีการดำเนินงานมุ่งเน้นสอนบัญชี ต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนทำบัญชีได้ ใช้บัญชีเป็น รู้จักการออมเงิน มีความกตัญญู และเป็นเยาวชนที่ดีของชาติ มีนักเรียนร่วมอบรมในโครงการฯ กว่า 6,720 คน และในปี 2559-ปัจจุบัน ได้มีการขยายผลการจัดค่ายครูสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ครูเป็นกำลังสำคัญในการติดตามประเมินผลการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของนักเรียน โดยมีครูสิ่งแวดล้อมศึกษาอบรม กว่า 464 คน และมีนักเรียนร่วมอบรมในโครงการฯ กว่า 6,720 คน สำหรับในปี 2560 นี้ กรมฯ ได้คัดเลือกนักเรียนที่ผ่านการอบรมในปี 2558-2559 ที่มีการจัดทำบัญชีอย่างต่อเนื่องและขยายผลสู่เพื่อนนักเรียนหรือครอบครัว เป็นต้นกล้านักบัญชีดีเด่นให้เป็นตัวแทนกล่าวรายงานต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ณ จุดแสดงนิทรรศการค่ายฯ ในงาน "สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ” ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จตุจักร กรุงเทพฯ อีกด้วย
       "พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติอย่างยาวนาน เป็นที่ประจักษ์ชัดในพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และผู้ด้อยโอกาสให้ดีขึ้น สามารถยืนหยัดด้วยลำแข้งของตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว.