65 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ปีแห่งการสร้างนวัตกรรม
            เพื่อข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณค่า
 
      
        นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 65 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในวันที่ 12 มีนาคม 2560 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรให้มีระบบบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ควบคู่กับการสนับสนุนให้เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการทำบัญชีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
การสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
         กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้สนับสนุนให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรนำระบบบัญชี และระบบการควบคุมภายในที่เป็นมาตรฐานไปใช้ในการบริหารจัดการ สนับสนุนการใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรใช้ในการจัดทำบัญชี สามารถปิดบัญชีได้อย่างรวดเร็วและใช้ประโยชน์จากข้อมูลทางบัญชีในการวิเคราะห์และวางแผนพยากรณ์การดำเนินงานได้ทันที รวมทั้งได้มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้สามารถจัดทำบัญชีและงบการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ เพื่อความโปร่งใส มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ในปี 2559 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้สนับสนุนและสอนแนะการจัดทำบัญชีแก่สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 11,297 แห่ง และได้นำข้อมูลทางบัญชีจากการตรวจสอบบัญชีมารวบรวมและวิเคราะห์เพื่อจัดทำภาวะเศรษฐกิจทางการเงิน รวมทั้งการเตือนภัยทางการเงินเพื่อสะท้อนภาพรวมสถานการณ์ทางการเงินในหลายมุมมองอำนวยประโยชน์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลที่สนใจใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และวางแผนพัฒนาภาคสหกรณ์ไทยให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
การสร้างภูมิคุ้มกันและสนับสนุนการทำบัญชีแก่เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป
         ตั้งแต่ปี 2548 จวบจนปัจจุบัน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ให้องค์ความรู้และสนับสนุนการทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ให้กับเกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้รับรู้สถานะทางการเงินของตนเอง รู้รายรับ-รายจ่าย ปรับพฤติกรรม ลด ละ เลิก การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ด้วยหลักการ "จด...ไม่จน" สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ให้รู้จักความพอมีพอกินพอใช้ คำนึงถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต สามารถปรับเปลี่ยนอาชีพให้เกิดความมั่นคง และเป็นโอกาสในการต่อยอดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน นำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ หลุดพ้นจากกับดักความยากจน ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้สนับสนุนการจัดทำบัญชีให้กับเกษตรกรในโครงการต่างๆ สนองตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2560 ได้ดำเนินการแล้ว ดังนี้
        - โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ 236 แปลง จำนวนเกษตรกร 20,180 ราย 
        - โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ จำนวน 55,757 ราย - ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ใน 882 ศูนย์ จำนวน 77,636 ราย 
        - โครงการเกษตรอินทรีย์ ในพื้นที่ดำเนินการยโสธรโมเดล จำนวน 40 ราย เป็นต้น
        และการยกระดับสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็งด้วยบัญชี เพื่อให้เกษตรกรรู้บัญชี ทำบัญชีได้ ใช้ข้อมูลเป็น สามารถวางแผนการลงทุนและการผลิตได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ นับถึงปัจจุบันกรมฯ ได้สอนแนะการทำบัญชีให้กับกลุ่มเป้าหมายแล้ว จำนวน 7.49 ล้านคน รวมทั้งได้สร้างเครือข่ายครูบัญชีอาสาทั่วประเทศ จำนวน 6,538 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความรู้การจัดทำบัญชีสู่เกษตรกรและคนในชุมชน ก่อเกิดเป็นชุมชนคนทำบัญชี กระจายอยู่ทั่วประเทศ
การสร้างนวัตกรรมเพื่อข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณค่า ในปี 2560
        สำหรับการพัฒนาองค์กรและผู้รับบริการ ให้มีความพร้อมก้าวสู่ยุค Thailand 4.0 กรมฯ    ได้สร้างระบบเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์แบบ Real Time ระบบข้อมูลเพื่อการตัดสินใจสำหรับผู้บริหารสหกรณ์(COOP Smart Decision) เพื่อให้เป็นผู้บริหารสหกรณ์ยุคดิจิทัล และให้สหกรณ์ทราบข้อบ่งชี้ความเสี่ยงทางการเงินของตนเอง มีความโปร่งใส เข้มแข็ง อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งริเริ่มการสร้างสื่อดิจิทัลการเรียนรู้ทางบัญชี และสร้างเกษตรกรสมัยใหม่ด้วยบัญชีสู่วิถีธุรกิจตามแนวทางประชารัฐนำไปสู่การเป็นเกษตรกรยุค Thailand 4.0 นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เพิ่มพูนทักษะผู้ตรวจสอบกิจการสู่การสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการสหกรณ์
        บทบาทและผลงานเชิงประจักษ์ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นข้อพิสูจน์ได้ถึงการรักษามาตรฐานและคุณภาพในการทำงานอย่างเข้มแข็ง ในโอกาสครบรอบปีที่ 65 ในวันที่ 12 มีนาคม 2560 นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะยังคงยึดมั่นในแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นองค์กรหลักด้านบัญชีในการขับเคลื่อนการพัฒนาสหกรณ์ไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งเกษตรกรและประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีสืบไป.