กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เผยภาวะเศรษฐกิจสหกรณ์ร้านค้า
พร้อมเร่งเดินหน้านโยบายแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบบัญชี
ร้านสหกรณ์ทั่วประเทศ
 
       นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  เปิดเผยว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์ร้านสหกรณ์
  ทั่วไปได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการบริโภคและการ
  ขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านค้าสะดวก
  ซื้อที่มีสิ่งจูงใจทั้งสินค้าและรูปแบบร้านค้าที่ทันสมัย
  มากกว่าร้านสหกรณ์ ส่งผลให้ผู้บริโภคในพื้นที่ชุมชน
  หันไปซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อมากอย่างต่อเนื่อง และ
  ประการสำคัญร้านสหกรณ์มีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการเปิด
  จำหน่ายสินค้า ที่กำหนดไว้ตามเวลาราชการเท่านั้น
       ทั้งนี้ จากข้อจำกัดดังกล่าวข้างต้นส่งผลกระทบให้
  ร้านสหกรณ์มีแนวโน้มลดลงทุกปี เฉลี่ยประมาณร้อยละ
  4-5 ต่อปี จากเดิมที่มีสหกรณ์ร้านค้าจำนวน 314 แห่ง
  ในปี 2551 มาเหลือเพียง 284 แห่งในปี 2553 ซึ่งใน
  จำนวนดังกล่าวมีร้านสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจตามปกติเพียง
  171 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 60.21 ของสหกรณ์ที่จดทะเบียน
  ดำเนินการในปี 2553 ส่วนอีก 87 แห่ง หรือร้อยละ 30.63
  ของสหกรณ์ร้านค้าที่เหลืออยู่ในขั้นตอนเตรียมเลิกกิจการ
       นายสิงห์ทอง  กล่าวว่า  หากพิจารณาผลการดำเนินงานของร้านสหกรณ์ปี 2553  ถือว่า
อยู่ในเกณฑ์ดีพอสมควรโดยจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานที่มีกำไรถึง 144 แห่ง ขาดทุน
เพียง 35 แห่ง มีกำไรสุทธิรวม 160.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.98 ของรายได้ นอกจากนี้
ในส่วนของสมาชิกร้านสหกรณ์ยังคงมีอัตราเพิ่มขึ้นในเชิงบวก จาก 715,753 รายในปี 2551
เพิ่มขึ้นเป็น 717,611 ราย ในปี 2553 และมีมูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น 5,472.18 ล้านบาท หรือ
เฉลี่ย 456.01 ล้านบาทต่อเดือน
        นอกจากนี้ด้านทุนดำเนินการของร้านสหกรณ์ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ยังคงทรงตัวในระดับ
สองพันกว่าล้านบาท ปรากฏว่าส่วนใหญ่เป็นทุนของสหกรณ์เอง และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องในทุกปี ส่วนปี 2553 ในส่วนของหนี้สินภายนอกมีเพียงร้อยละ 11.98 ของทุน
ดำเนินการลดลงร้อยละ 20.27 เมื่อเทียบกับปี 2552 ทุนส่วนใหญ่ยังถือเป็นเงินสดและเงิน
ฝากธนาคารร้อยละ 35.89  ส่วนหนึ่งลงทุนไปกับลูกหนี้การค้าร้อยละ 25.38 ในอสังหาริมทรัพย์
ร้อยละ 15.38 ลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารร้อยละ 6.89 ในสินค้าและอื่นๆ ร้อยละ 16.46
        ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์

ร้านสหกรณ์ที่มีแนวโน้มลดลงทุกปี โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ อาทิ ตัวแทน
จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบร้านสหกรณ์
        อย่างไรก็ตามกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้นำเสนอปัญหาจากการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์
พบว่า ร้านสหกรณ์มีปัญหาด้านระบบการควบคุมภายใน และการจัดทำบัญชีที่ไม่เป็นปัจจุบัน
ซึ่งสามารถตรวจสอบบัญชีได้เพียง 179 แห่ง หรือร้อยละ 63.03 ของร้านสหกรณ์ทั้งสิ้น และ
ขณะนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์อยู่ระหว่างการรณรงค์ให้ร้านค้าสหกรณ์ทั่วประเทศใช้โปรแกรม
ระบบบัญชีสหกรณ์ร้านค้าที่กรมฯ ได้พัฒนาขึ้นมาให้สหกรณ์ใช้โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงทันสมัยเทียบเท่าโปรแกรมระบบบัญชีของห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ
ทั่วไป ซึ่งกรมฯ มั่นใจว่าโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ร้านค้าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านการ
จัดทำบัญชีและการปิดบัญชี รวมทั้งการจัดทำงบการเงินของสหกรณ์  ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้
การบริหารงานของร้านสหกรณ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น