คณะผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วยครูบัญชีอาสา
ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน
ทรงตรวจเยี่ยมโครงการส่วนพระองค์  สวนจิตรลดา 
วันพืชมงคล 2554

       เมื่อวันที่  13  พฤษภาคม  2554  นายสิงห์ทอง  ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  นำคณะผู้บริหาร  ข้าราชการ   และผู้แทนครูบัญชีอาสาทั่วประเทศ
กว่า  80  คน  ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
  ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทอดพระเนตรกิจการ  ๕๐  ปี  โครงการส่วนพระองค์  สวนจิตรลดา  ในวันพืชมงคล 
พุทธศักราช  2554  ณ  โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา  พระราชวังดุสิต  กรุงเทพฯ  
       โอกาสนี้  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน
พระราโชวาทแก่ผู้แทนสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ  ใจความสำคัญว่า 
"สำหรับผู้แทนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั้งหลาย เชื่อว่าแต่ละคนคงทราบชัดเจนอยู่แล้ว
ว่าการปฏิบัติงานด้านการเกษตรและสหกรณ์นั้น ต้องอาศัยหลักวิชาอย่างมาก ทุกคนจึง
จำเป็นต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ดังเช่นการที่ท่านได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้
ก็คงจะได้รับความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ มากมาย ทั้งเรื่องการผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การตลาดและการบริหารการจัดการ  อย่างไรก็ดี ความรู้เหล่านี้จะบังเกิดผล
ไม่ได้ หากไม่มีการนำไปปฏิบัติ จึงขอให้ทุกท่านนำความรู้ ความคิด ตลอดจนประสบการณ์ที่ได้รับ ไปปรับใช้ในการปฏิบัติ พัฒนางานของตนให้ก้าวหน้า ตลอดจน
แบ่งปันถ่ายทอดให้แก่สมาชิกคนอื่น ๆ อย่างทั่วถึง  ถ้าทำได้ดังที่กล่าว  งานด้านการเกษตรและสหกรณ์ของประเทศก็จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมวลสมาชิก และความเจริญมั่นคงของประเทศชาติบ้านเมือง"
       การนี้  นายสิงห์ทอง  ชินวรรังสี  อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าถวายหนังสือเรื่องครูบัญชีดีเด่น  ซึ่งรวบรวมประวัติ   แนวคิดในการดำเนินชีวิต 
และผลงานการสอนบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพของครูบัญชีดีเด่น
ประจำปี 2554  ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ  รวมไปถึงประวัติและผลงานของครูบัญชีดีเด่นระดับประเทศ  ประจำปี 2548-2553  
       ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวฯ โดยดำเนินโครงการพัฒนาภูมิปัญญาทางบัญชีสู่บัญชีต้นทุนอาชีพ  ต่อยอดการเรียนรู้จากบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนสู่บัญชีต้นทุนอาชีพ ให้แก่เกษตรกร จำนวน 2.4 ล้านคน มีระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (2554-2559) เพื่อสร้างเสริมให้
เกษตรกรรู้จักใช้ข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาวางแผนการผลิต  ลดต้นทุนการผลิต 
เกิดการเปรียบเทียบ  หรือปรับเปลี่ยนอาชีพ เพราะทำให้รู้กำไร-ขาดทุน และสามารถ
เพิ่มรายได้ของตนเอง ซึ่งในการดำเนินงานดังกล่าว กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้สร้าง
"ครูบัญชี" หรือ "อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี" ทำหน้าที่แทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ในการเป็นวิทยากร  วิทยากรผู้ช่วย  เพื่อสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้ และติดตามผลการทำบัญชีของเกษตรกร รวมถึงการสร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชนของตน  และพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ ยังมีการทำงานเป็น
เครือข่ายร่วมกันระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และครูบัญชี ซึ่งจะช่วยสร้างเสริม
ให้เกษตรกรได้ใช้บัญชีต้นทุนอาชีพสู่การวางแผนธุรกิจครัวเรือน  ซึ่งเป็นการพัฒนา
กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นหลักภูมิปัญญาชาวบ้าน  ทำให้เกิดการสมดุลในการดำรงชีวิต
ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน